บริษัทแอร์บัส เอสอีคาดการณ์ว่า ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแปซิฟิกจะซื้อเครื่องบินจากบริษัทแอร์บัสรวม 920 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเดินทางฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด
แถลงการณ์ของแอร์บัสระบุว่า ในจำนวนเครื่องบิน 920 ลำนั้น คาดว่าจะประกอบด้วยเครื่องบินรุ่นลำตัวแคบ 750 ลำ เช่น เครื่องบินตระกูล A320 ที่ขายดีที่สุดของแอร์บัส และเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่าอีก 170 ลำ โดยกว่าครึ่งของเครื่องบินเหล่านี้จะใช้ในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่ส่วนที่เหลือจะใช้ในการทดแทนลำเก่าและเครื่องบินที่อายุการใช้งานมากแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเดินทางทางอากาศกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่สายการบินและสนามบินส่วนใหญ่คาดไว้ หลังจากที่โควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการบินอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ อนุมัติให้กลุ่มผู้บริหารขึ้นเครื่องบินเพื่อเข้าประชุม และประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางได้ หลังจากถูกระงับมาหลายปี
สตีเฟน ฟอร์ชอว์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแอร์บัสประจำออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแปซิฟิกกล่าวว่า “เรากำลังเห็นความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงขึ้นและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นทั้งขาเข้าและขาออก” พร้อมเสริมว่า ปัจจุบันภูมิภาคแปซิฟิกมีเครื่องบินแอร์บัสให้บริการอยู่ 170 ลำในสายการบินต่าง ๆ ของออสเตรเลีย ฟิจิ นิวแคลิโดเนีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะโซโลมอน และมีการสั่งซื้อเครื่องบินอีก 166 ลำในภูมิภาคดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66)
Tags: การเดินทาง, ภูมิภาคแปซิฟิก, สายการบิน, เครื่องบิน, แอร์บัส เอสอี