SVT กางแผนปี 66 ดันยอดขายโตต่อ 10% เพิ่มตู้จุดท่องเที่ยว หลังโชว์กำไรปี 65 พุ่ง 27.86%

นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี (SVT) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในพื้นที่เปิดเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง ในภาคตะวันออกฉียงเหนือและภาคใต้

อีกทั้งบริษัทยังมีการเปิดให้บริการแอปพลิเคชั่น SUN V ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน Loyalty Program ระบบสมาชิกสะสมแต้ม รองรับการใช้บริการซื้อสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าของ SUN Vending สร้างความสะดวกและเพิ่มทางเลือกการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคยุคสังคมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปี 66 เติบโต 10% จากปี 65 จากภาวะแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และ SVT จะยังเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

“SVT เรามีโรงงานปรับปรุงสภาพและประกอบ (Refurbishment) เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของตนเอง และมีสาขากระจายสินค้า 15 แห่ง แบ่งเป็นสาขา 13 แห่ง และสาขาย่อย 2 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 30 จังหวัด โดยบริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจตามแผนด้วยกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนในอนาคต” นายพิศณุ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานปี 65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,244.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.32% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,963.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.86% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 66.69 ล้านบาท

การเติบโตของรายได้ มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็นหลัก หลังบริษัทฯ ขยายการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เพื่อให้บริการตามสถานที่บริการต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายพื้นที่จังหวัดการให้บริการเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 สาขา คือ สาขาลำพูน, สาขาอุบลราชธานี, สาขาชลบุรี 2 และสาขาปทุมธานี

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตั้งเพิ่มขึ้นจำนวน 972 เครื่อง คิดเป็น 6.65% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 64 ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 บริษัทมีเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติวางให้บริการทั้งหมดจำนวน 15,600 เครื่อง มีรายได้เฉลี่ย/เครื่อง/วันประมาณ 400 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 379 บาท/เครื่อง/วัน

ขณะเดียวกันในยังได้รับผลดีจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 64 ที่ได้รับผลกระทบในด้านรายได้ที่ลดลงในบางกลุ่ม Segment เช่น โรงแรม มหาวิทยาลัย โรงเรียน ออฟฟิศสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าหลักราว 70% ของเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทั้งหมด คือ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โรงงานสิ่งทอ โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รองลงมา คือธุรกิจโลจิสติก กลุ่มออฟฟิศสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม

นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายกระจายความเสี่ยง โดยขยายพื้นที่ให้บริการในการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติใน Segment ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานีรถไฟฟ้า เช่น MRT BTS และแอร์พอร์ตลิ้งค์ คอนโดมิเนียม เป็นต้น เพื่อให้สอดรับกับ Life Style ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค New Normal เช่น คนทำงานพักอาศัยในคอนโดมีเนียมในเมือง การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อความรวดเร็ว การขยายธุรกิจร้านค้าปลีกในปั๊มน้ำมัน เป็นต้น ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top