พูดไปใครจะเชื่อ!! We are social เผยตัวเลขด้านคริปโทฯ ที่น่าสนใจ คนไทยเรายังติดอันดับ Top หลายอย่าง นอกจากนี้ฟากฝั่งผู้กำกับเกณฑ์อย่างสำนักงาน ก.ล.ต.ตื่นตัวเปิด Hearing รับฟังความคิดเห็นเกณฑ์ ICO ใหม่อีก 2 ประเภท อย่าง Debt-Liked ICO และ Infra-Backed ICO
ล่าสุดทาง We are Social บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Data ต่าง ๆ ที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ได้เผยตัวเลขสถิติผ่าน Digital 2023 Global Overview Report มาแล้ว ซึ่งก็มีตัวเลขของคนไทยที่น่าสนใจมาก
We are social เปิดเผยว่าคนไทยถือครอง Cryptocurrency มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก คิดเป็น 21.9% โดยมีมูลค่าเฉลี่ยถือครองคนละ 73.81 ดอลลาร์ หรืออยู่ที่ประมาณคนละ 2,500 บาท หมายความว่าคนไทยถือครองเป็นเจ้าของคริปโทฯ กันจำนวนมาก แต่ถือกันเฉลี่ยรายละไม่มากนัก
ทางฝั่ง NFT ก็ไม่น้อยหน้า เพราะมูลค่า NFT ที่คนไทยถือครองเพิ่มขึ้นมาจากปีก่อน จากรายงานพบว่า NFT ที่คนไทยถือครองอยู่มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ดอลลาร์ หรือประมาณ 600 บาท ครองตำแหน่งอยู่อันดับที่ 34 ของโลก
จากที่ก่อนหน้านี้ทาง ZIPMEX ให้เจ้าหนี้ได้เข้าไปทำการโหวตแผนการจัดการ ซึ่งก็ได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางศาลสูงประเทศสิงคโปร์ได้อนุมัติขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. 2566 โดยกระบวนการต่อไปคือการรอผลพิจารณาของผู้จัดการแผนที่ได้รับการแต่งตั้ง คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์และมีผลลัพธ์ในทิศทางเชิงบวกภายในวันที่ 21 มี.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ ทาง Zipmex ก็ได้แสดงตัวออกมาชัดเจนว่ามีความตั้งใจจะกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้งให้จงได้ งานนี้เจ้าหนี้อย่างเรา ๆ คิดยังไงกันบ้าง รอไหวไหม? ยังรออยู่รึเปล่า?
ล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิด Hearing รับฟังความคิดเห็นของประชาชนและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับ Debt-Liked ICO และตัว Infra-Back ICO ถึงวันที่ 21 มี.ค. นี้ แล้ว ICO 2 ตัวนี้มันคืออะไรกันแน่?
Debt-Liked ICO คือ การระดมทุนด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีการจัดโครงสร้างและให้ผลตอบแทนซึ่งมีลักษณะคล้ายหนี้ มีการกำหนดอัตราผลตอบแทนไว้แน่นอน ไม่ผันแปรตามผลการดำเนินงานของโครงการ แต่ก็อาจมีการให้ผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือ extra return ได้
และ Infra-Backed ICO ก็คือ โทเคนดิจิทัลที่มีกิจการโครงสร้างพื้นฐานหรือกระแสรายรับจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นทรัพย์สินอ้างอิงนั่นเอง ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากกระแสรายรับที่มาจากกิจการโครงสร้างพื้นฐาน โดยได้เสนอปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้เทียบเคียงได้กับทรัสต์ (Trust) เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure trust) ของผู้ออกเสนอขาย (issuer) รวมทั้งปรับปรุงข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เราจะเห็นได้ว่าทาง ก.ล.ต. ได้มีการออกกฎเกณฑ์ แล้วก็การระดมทุนหัวข้อใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นผลดีแก่นักลงทุน แถมยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบลงทุนผ่าน Digital Asset อีกด้วย
ล่าสุดทาง Merkle Capital ในเครือ Cryptomind Group ได้เปิดตัวกลยุทธ์การลงทุนใหม่ “M-Next Generation” ที่เราสามารถไปลงทุนใน Digital Asset คล้ายกับการลงทุนในกองทุน โดย M-Next Generation จะเน้นการลงทุนโทเคนดิจิทัลในกลุ่มอุตสาหกรรมของ Web 3.0 เริ่มลงทุนขั้นต่ำเพียงแค่ 10,000 บาทเท่านั้น ใครที่ชอบลงทุนคู่กับสายเทค AI หรือว่า Web3 เรียกว่าตอบโจทย์
ทั้งนี้ การลงทุนใน Digital Asset ยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนการลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 66)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, CryptoShot, SCOOP, คนไทย, คริปโทเคอร์เรนซี, บิทคอยน์