ตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์หลังปรับลงติดต่อหลายวัน-บรรยากาศลงทุนตปท.หนุน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ หลังลงติดดต่อกันหลายวัน และบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศหนุน หลังผลงานบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐออกมาดีกว่าคาด และบอนด์ยีลด์ยังย่อตัวลงต่ำกว่า 3.9% รวมถึงราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แต่นักลงทุนก็ยังกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังตัวเลขภาคแรงงานยังแข็งแกร่ง ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่ามากสุดปีนี้ หนุนเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง ให้แนวรับไว้ที่ 1,647-1,648 จุด และแนวต้าน 1,660-1,670 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ หลังปรับตัวลงติดต่อกันหลายวัน และบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศดี จากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐออกมาดี โดยเฉพาะหุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิป มีแนวโน้มยอดขายที่แข็งแกร่ง หนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีตามไปด้วย ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ย่อตัวลงต่ำกว่า 3.9% และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% จากรัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน

อย่างไรก็ตามตลาดยังคงกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยวานนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ และค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามาที่ระดับ 34.70 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่ามากสุดในปีนี้ กดดันเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออก

ให้แนวรับไว้ที่ 1,647-1,648 จุด และแนวต้าน 1,660-1,670 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,153.91 จุด เพิ่มขึ้น 108.82 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,012.32 จุด เพิ่มขึ้น 21.27 จุด หรือ +0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,590.40 จุด เพิ่มขึ้น 83.33 จุด หรือ +0.72%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 27,144.72 จุด เพิ่มขึ้น 40.40 จุด หรือ +0.15%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,223.67 จุด ลดลง 127.68 จุด หรือ -0.63% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,287.26 จุด ลดลง 0.22 จุด หรือ -0.01%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.พ.) 1,652.47 จุด ลดลง 7.01 จุด (-0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 56,102.34 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 2,904.35 ลบ. เมื่อวันที่ 23 ก.พ.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.พ.) อยู่ที่ 5.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.73 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค จับตาตัวเลข PCE สหรัฐคืนนี้

– ไทยเนื้อหอมเดือนแรกปี’66 ต่างชาติลงทุนไทยกว่า 5 พันล้าน ญี่ปุ่นเต็งหนึ่ง คาดทั้งปีนี้ทะลุแสนล้านรับปัจจัยบวก เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ดันท่องเที่ยว-ลงทุนขยายตัว อีอีซีแจ้งเกิด รัฐ-เอกชนร่วมพัฒนา

– ภาคธุรกิจเอกชน กังวลยุบสภาฉุดเศรษฐกิจชะลอ คาดราชการเกียร์ว่างตามธรรมเนียมปฏิบัติ ด้านหอการค้าไทยจี้เร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่เดินหน้าผ่านงบประมาณฟื้นเศรษฐกิจประเทศให้ต่อเนื่อง

– กกพ.ชี้แจงศาลปกครอง ยืนยันประมูลไฟฟ้าตามขั้นตอนโปร่งใส รอลุ้นประเด็นขอคุ้มครองชั่วคราว พร้อมเดินหน้าต่อเซ็นสัญญาผู้ชนะประมูล ผู้ประมูลพลังงานลมร้องศาลปกครองสอบประมูลซื้อขายไฟหมุนเวียน 5 พันเมกะวัตต์

หุ้นเด่นวันนี้

– WHA (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 4.7 บาท ดีเกินคาด WHA มีกำไรจากการดำเนินงานปี 65 ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%yoy จากการโอนที่ดินให้กับ BYD และมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯ

– NETBAY (โนมูระฯ) “Trading Buy” เป้าหมาย 31 บาท มีมุมมอง Positive ต่อกำไรไตรมาส 4/65 ที่ 60 ล้านบาท (+32%y-y, +59%q-q) สูงกว่าตลาดคาด 5% และเป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุด ได้อานิสงค์จากการเริ่มรับรู้รายได้จากการพัฒนาระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้ไปรษณีย์ไทย โดยระยะกลาง-ยาวบริษัทยังได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านเข้ายุคดิจิตอล

– ASW (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 429 ล้านบาท +125% q-q, +99% y-y หนุนจากยอดโอนที่เติบโตก้าวกระโดดจากการเริ่มโอนคอนโดใหม่ 2 แห่ง กำไรพิเศษจากเงินลงทุนหลังเซ็น JV ใหม่ จบปี 65 กำไรปกติอยู่ที่ 688 ลบ. -22% y-y

คาดกำไรปกติปี 66 พลิกมาเติบโตแรง +48% y-y จากยอดโอนที่คาดเร่งขึ้นจากคอนโดสร้างใหม่ 9 แห่งซึ่งมี Presales เฉลี่ย 60% ล่าสุดประกาศปันผล 0.5226 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 6.2%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 66)

Tags: , , ,
Back to Top