นายพิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF)กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเฉลี่ย 20-30% จากแผนเพิ่มฐานลูกค้ารายใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผนลงทุนโครงการคลังสินค้าแห่งใหม่เพื่อเพิ่มความจุสินค้าจากเดิม 2,000 ตัน เพิ่มเป็น 4,000 ตัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองดีมานด์ความต้องการของลูกค้า
รวมถึงเพิ่มการให้บริการอบชุบจากระบบเตาชุบไนไตรดิ้งที่จะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านต้นทุนเพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 65 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท ย่อตัวจากปีก่อนหน้าที่มีกำไร 15.5 ล้านบาท
SAF ยังสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและบริการที่มีคุณภาพสูง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายเหล็กกล้าเกรดพิเศษคุณภาพสูงจากบริษัทระดับโลกในประเทศเยอรมนี อาทิ DÖRRENBERG EDELSTAHL GmbH และ WILHELM OBERSTE-BEULMANN GmbH จึงตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร รองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนเครื่องจักรกลทางวิศวกรรมตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ยังคงได้รับปัจจัยเชิงบวกจากราคาจำหน่ายเหล็กกล้าเกรดพิเศษที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นได้ดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 66)
Tags: SAF, ผลการดำเนินงาน, พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช, หุ้นไทย, เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล