สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงเปิดเผยว่า ปริมาณการเดินทางระหว่างฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่พุ่งขึ้นเป็นสองเท่า แตะที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด หลังจากฮ่องกงและจีนเปิดพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปิดประเทศเป็นเวลานานหลายปีเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19
ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า ณ วันจันทร์ที่ 20 ก.พ. มีการเดินทางจำนวนกว่า 233,000 ครั้งผ่านจุดตรวจชายแดนทั้งบนบกและเรือข้ามฟากไปยังประเทศจีน โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 116,000 ครั้งในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ. และถือเป็นจำนวนการเดินทางข้ามพรมแดนรายวันในระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2563
การเปิดพรมแดนดังกล่าวช่วยกระตุ้นจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวในภาพรวมทั้งในและนอกฮ่องกงเพิ่มขึ้น 64% สู่ระดับ 284,000 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการเดินทางผ่านทางสนามบิน โดยตัวเลขรวมดังกล่าวถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเช่นกัน
ส่วนปริมาณการเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่มายังฮ่องกงผ่านทางจุดตรวจชายแดนทางบกและเรือข้ามฟากพุ่งขึ้น 66% แตะที่ 114,000 ครั้ง และผ่านทางท่าเรือและท่าอากาศยานทุกแห่ง เพิ่มขึ้น 42% แตะที่ 142,000 ครั้ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนได้เปิดพรมแดนกับฮ่องกงในช่วงต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการยกเลิกมาตรการเข้มงวดต่าง ๆ เช่น การกำหนดโควตาขาเข้ารายวันและการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยการยกเลิกนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 ก.พ. อย่างไรก็ดี จีนยังคงใช้ข้อกำหนดการแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ภายใน 48 ชั่วโมงสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงและมาเก๊าในกรณีพวกเขาเหล่านั้นมีประวัติการเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ ในช่วง 7 วันก่อนหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 66)
Tags: จีน, ท่องเที่ยว, ฮ่องกง, เปิดพรมแดน