นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อ พร้อมเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค ประกอบด้วย
1. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ
2. นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสายไหม
3. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบึงกุ่ม
“ขอถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทั้ง 3 เขต ทั้งเขตบางซื่อ เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ขอความกรุณาให้โอกาสนักบินรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน และให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เราได้มีโอกาส คัมแบ็ค มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
พร้อมกับเปิดเผยถึงกิจกรรมใน กทม. ถัดจากนี้จะประกอบด้วย 4 กิจกรรม ก่อนเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว คือ 1. วันนี้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 นักบิน 2. เปิดศูนย์เลือกตั้งที่เขตบางนา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ 3. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปชป. ที่เป็นสตรี ซึ่งประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการเมืองยุคใหม่ นอกจากต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมแล้ว ก็ต้องมีการเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นด้วย และ 4. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ปชป. ทั้ง 33 เขต ในช่วงต้นเดือนมีนาคม
หากดูจากตัวผู้สมัครที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งใน กทม. หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่าฯ กับ ส.ก. ที่ผ่านมา และเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทิศทางการเมืองต่อจากนี้เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีพูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหนอย่างไร ซึ่งถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน 45 – 60 วัน นับไปนับมาก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ส่วนวันที่เท่าไหร่ก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมาก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค. แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นก็น่าจะไปตามนี้โดยประมาณ
“ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือเลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ผมยืนยันว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ และเป็นหลักคิดสำคัญ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 66)
Tags: จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, พรรคประชาธิปัตย์, เลือกตั้ง