นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อดัง กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) ว่า หากรัสเซียพ่ายแพ้ในสงครามยูเครนแล้ว จะนำไปสู่การล่มสลายของ “จักรวรรดิรัสเซีย” และจะเป็นสิ่งที่สร้างความยินดีแก่บรรดาประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับกลุ่มชาติตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤติการณ์ขีปนาวุธคิวบาเมื่อปี 2505
นายโซรอสกล่าวว่าสหรัฐจะให้การสนับสนุนยูเครน แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เตือนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ว่าการช่วยเหลือมีจำกัดและต้องเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม โดยนายโซรอสไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลดังกล่าว
นายโซรอสกล่าวอีกว่า กองทัพรัสเซียมีผู้นำที่ไม่ดี อาวุธยุทโธปกรณ์ไม่พร้อมและทหารก็ขวัญเสีย แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กลับหันหน้าไปพึ่งพากลุ่มทหารรับจ้างจากบริษัทวากเนอร์ในการสู้รบกับกองทัพยูเครน
“บรรดาประเทศอดีตสหภาพโซเวียตแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นรัสเซียพ่ายแพ้ในยูเครน เพราะประเทศเหล่านี้ต้องการยืนยันความเป็นเอกราชของตนเอง” นายโซรอสกล่าวในการประชุมด้านความมั่นคงมิวนิก
“นั่นหมายความว่าชัยชนะของยูเครนจะนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซีย และรัสเซียจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อยุโรปและโลกอีกต่อไป ซึ่งนั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น”
นายโซรอสกล่าว
ทั้งนี้ ปธน.ปูตินเล็งเห็นว่าสงครามในยูเครนคือการสู้รบกับกลุ่มชาติตะวันตกที่ทั้งก้าวร้าวและหยิ่งผยอง และกล่าวว่ารัสเซียจะใช้ทุกวิถีทางที่มีเพื่อป้องกันตนเองและปกป้องประชาชนจากการโจมตีใด ๆ ก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 66)
Tags: จอร์จ โซรอส, ยูเครน, รัสเซีย, สงคราม