เมียนมาอนุญาตให้ผู้จงรักภักดีต่อชาติถือครองปืน ทำประชาชนหวั่นเหตุความรุนแรง

สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวกองทัพเมียนมาและสื่อต่าง ๆ เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ที่ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาวางแผนอนุญาตให้บุคคลที่ “จงรักภักดีต่อประเทศชาติ” เช่นเจ้าหน้าที่รัฐและทหารเกษียณอายุราชการ สามารถถือครองปืนได้แบบถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐบาลท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมาย

กรณีดังกล่าวได้โหมกระพือกระแสความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญบางรายขององค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่าเมียนมากำลังตกอยู่ภายใต้ภาวะสงครามกลางเมือง

กองทัพเมียนมาได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อให้เกิดการประท้วงแบบสันติอหิงสาเป็นวงกว้าง แต่สุดท้ายผู้ประท้วงตัดสินใจใช้อาวุธ หลังจากทหารใช้กำลังรุนแรงถึงชีวิตในการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม

รายงานระบุว่า เอกสารความยาว 15 หน้า เกี่ยวกับนโยบายอาวุธปืนของกระทรวงมหาดไทยเมียนมาได้ถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊กและเทเลแกรมของฝ่ายสนับสนุนกองทัพ รวมทั้งถูกเผยแพร่โดยสื่อฝ่ายนิยมกองทัพและสื่ออิสระ โดยเมียนมาออกเอกสารฉบับดังกล่าวในวันที่ 31 ม.ค. หลังจากได้รับการอนุมัติในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนธ.ค. 2565

นโยบายใหม่ดังกล่าวอนุญาตให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนและกระสุนปืนได้หลายชนิด โดยเอกสารระบุว่าผู้ขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนจะต้อง “เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติและมีศีลธรรมอันดี” รวมถึงไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการละเมิดความความมั่นคงของรัฐ อีกทั้งยังระบุว่าผู้ถือครองใบอนุญาตดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นในการเข้าร่วมกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมาย

พลจัตวา ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายืนยันกับสำนักข่าวบีบีซีประจำพม่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ.ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องจริง พร้อมระบุว่าเมียนมามีความจำเป็นต้องออกใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากประชาชนบางส่วนร้องขอสิทธิ์ในการถือครองอาวุธปืน เพื่อป้องกันตัวจากการโจมตีของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร

ด้านสื่อฝ่ายนิยมรัฐบาลทหาร 2 แห่งได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของพลจัตวา จอ ลิน โฆษกกระทรวงมหาดไทยเมียนมาที่กล่าวว่า นโยบายครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวถูกรื้อฟื้นและปรับแก้ไขจากนโยบายเมื่อปี 2520 ในสมัยรัฐบาลของพลเอก เน วิน อดีตประธานาธิบดีเมียนมา โดยหลังจากเหตุการณ์ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยลุกฮือก่อจลาจลต่อต้านรัฐบาลแต่ไม่สำเร็จเมื่อปี 2531 กองทัพเมียนมาก็ได้เพิกถอนใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืนและมีคำสั่งให้ประชาชนส่งมอบอาวุธปืนทั้งหมดคืนให้แก่กองทัพ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 66)

Tags: , , ,
Back to Top