นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมปี 66 จะเติบโตที่ประมาณ 10-20% จากปีก่อน โดยกลยุทธ์หลักยังคงเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก ภายใต้แนวคิด Superior Long-term Performance หรือการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1. Core Business คือการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า โดยในปี 66 บริษัทมีแผนออกเดินสายโรดโชว์ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้กับลูกค้า
2. ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar, Trina Solar, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งปีนี้จะมีการทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการให้บริการที่ครบวงจร เนื่องจากเล็งเห็นว่าผู้ประกอบการขนาดกลางให้ความสำคัญในการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มขึ้น
3. ธุรกิจ future business (ธุรกิจในอนาคต) คือธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่บริษัทฯ ได้เริ่มลงทุน โดยปัจจุบันมีการติดตั้งสถานีชาร์จ จำนวน 2 แห่ง และอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่ม นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังมองหาธุรกิจอื่นๆ ด้านพลังงานทดแทนเพิ่ม เพื่อเข้ามาเสริมพอร์ตสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าในปี 66 มีทิศทางที่สดใส ด้วยผู้ประกอบการในกลุ่ม FDI ที่กลับมาลงทุนในประเทศไทยและภาครัฐให้การสนับสนุนการลงทุนในด้านพลังงานสะอาดมากขึ้นด้วย ปัจจุบัน QTC เป็นผู้ผลิตหม้อแปลง Super Low Loss ซึ่งมีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน จาก No Load Loss ได้สูงสุดถึง 80% และได้รับการยอมรับจากองค์กรในประเทศ และต่างประเทศ จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน
ขณะที่ธุรกิจโซลาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ธุรกิจเติบโต คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทจึงเชื่อว่าธุรกิจโซลาร์จะเป็นตัวขับเคลื่อน QTC ในปีต่อๆไป
“จากการปรับกลยุทธ์รองรับการเติบโตของธุรกิจแบบเชิงรุกข้างต้นนั้น เชื่อว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า (66-69) รายได้จะเติบโตเกิน 2,000 ล้านบาท โดยธุรกิจโซลาร์คาดปรับตัวขึ้นมาอยู่ระดับ 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 30% และธุรกิจการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าจะอยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ซึ่งธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ายังคงเติบโตที่ประมาณ 20-30% ขณะที่ธุรกิจ EV Charging ยังคงต้องใช้เวลาทำตลาดตามปริมาณของจำนวนรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาว”
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 65 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้จะเป็นปีที่ยากลำบาก เนื่องจากมีอุปสรรคและข้อจำกัดในการดำเนินงานหลายเรื่อง แต่บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ที่ 1,237 ล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 15.84 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 800 ล้านบาท และธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter 400 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการดีขึ้นหลักๆ มาจากการเติบโตของธุรกิจโซลาร์เซลล์ เติบโตสูงเกือบ 40% จากปี 64 แม้ว่า Core Business จะยังคงเติบโต แต่ธุรกิจโซลาร์มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ หนุนให้ภาพรวมรายได้ทั้งปีเติบโตขึ้น ซึ่งในปี 65 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโซลาร์ราว 30% ของรายได้รวม ขณะที่สัดส่วนรายได้หลักจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ประมาณ 70% ของรายได้รวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 66)
Tags: EV Charging, QTC, คิวทีซี เอนเนอร์ยี่, พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน, หม้อแปลงไฟฟ้า, หุ้นไทย, โซลาร์เซลล์