นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 50% ภายใน 3 ปี (66-68) ตามการเติบโตของระบบสมาร์ทกริด ทำให้มีการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า (PEM) ตลอดจนการเปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตให้เป็นเครื่องจักรอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่จะมีมากขึ้น
สำหรับทิศทางธุรกิจปี 66 นี้ วางเป้าหมายเติบโต 15% ตามแนวโน้มของโครงการเปลี่ยนมิเตอร์จากจานหมุนให้เป็นสมาร์ทมิเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการของ กฟภ.ที่มีแผนจะเปลี่ยนมิเตอร์จำนวน 18 ล้านเครื่องภายใน 7 ปี หรือระหว่างปี 65-71 คาดว่าปีนี้เปิดประมูลราว 2 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทฯมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลดังกล่าวเพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทฯอย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่ความคืบหน้าโรงงานผลิตหม้อแปลงและตู้ควบคุมไฟฟ้าในกัมพูชา คาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ได้ในไตรมาส 1/66 และจะสร้างรายได้ให้บริษัทปีละ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้า 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลสงขลาไบโอแมส และโรงไฟฟ้าชีวมวลสงขลาไบโอเพาเวอร์ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 40% และ 76% มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายที่ 18.2 เมกะวัตต์ (11.5 เมกะวัตต์คิดตามอัตราส่วนการถือหุ้น)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 66)
Tags: PCC, กิตติ สัมฤทธิ์, พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น, หุ้นไทย