นายวิทวัส วิภากุล กรรมการ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) เปิดเผยว่า ปี 66 ธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากปีที่ผ่านมาการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
สำหรับบริษัทยอดขายและรายได้ในปีนี้จะกลับมาเติบโต โดยเฉพาะการดำเนินงานตามแผนสร้างการเติบโต โดยผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งต่างประเทศและในประเทศ ผสานจุดแข็งร่วมลงทุนต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ร่วมกันพัฒนา โครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
บริษัทตั้งเป้ารายได้ 6 พันล้านบาท โดยเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 3 พันล้านบาท และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากทั้ง 2 ธุรกิจหลัก ส่งผลให้จะมีรายได้เป็น All-Time High หรือรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา
สำหรับธุรกิจโรงแรม ได้แก่ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit, The Westin Grande Sukhumvit, Royal Orchid Sheraton Hotels & Towers, Sheraton Hua Hin Resort & Spa และ Sheraton Hua Hin Pranburi Villas ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับผลดีจากที่การท่องเที่ยวทั่วโลกที่ฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายปี 62 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 66 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 25 ล้านคน หรือคิดเป็น 62% ของปี 62 โดยโรงแรมในเครือของบริษัทคาดการณ์รายได้จะฟื้นตัวเทียบเท่ากับรายได้ปี 62 ซึ่งมาจากหลายปัจจัยหลัก เช่น ที่ตั้งของโรงแรมที่สามารถเดินทางได้สะดวกหลากหลายช่องทางสามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวและออฟฟิศสำคัญได้รวดเร็ว และรวมถึงใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติ จึงเป็นที่ชื่นชอบของทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และผู้มาร่วมงานประชุม MICE
ขณะที่โรงแรมในต่างจังหวัดก็มีความพร้อมต้อนรับลูกค้าทุกประเภท โดยเฉพาะงานแต่งงานของชาวอินเดีย ซึ่งชื่นชอบโรงแรมในเครือของบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านนี้อยู่แล้ว และรวมถึงนักเดินทางจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่ชื่นชอบความหรูหราและความเป็นส่วนตัว ซึ่งตรงกับความเป็นตัวเองของโรงแรมสไตล์วิลล่าของบริษัทเช่นกัน
“เรายังใช้เวลาช่วงที่ผ่านมาปรับปรุงส่วนต่างๆ ของโรงแรมเพื่อรอรับการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ ทำการปรับปรุงร้านอาหารโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน 2 แห่ง ได้แก่ สยาม ยอร์ช คลับ ร้านอาหารและบาร์สุดหรูแห่งใหม่ และ จิออร์จิโอ ร้านอาหารอิตาเลียน โดยใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อให้เป็นโรงแรมริมแม่น้ำที่มีร้านอาหารติดริมแม่น้ำที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งบรรยากาศภายในร้านอาหาร และแบ็คกราวน์ด้านหลังที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมที่สวยงาม ซึ่งร้านอาหารใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้กับโรงแรม” นายวิทวัส กล่าว
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 3 พันล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ภายใต้การร่วมทุนกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” จำนวน 2 พันล้านบาท จากการที่โครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทำให้มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติตัดสินใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนมากขึ้น, จากโครงการ ไฮด์ สุขุมวิท 11 จำนวน 600 ล้านบาท และโครงการอมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง จำนวน 400 ล้านบาท ที่ผนึกความร่วมมือกับ “อมาธารา เวลเลเชอร์ รีสอ์รท” แบรนด์ธุรกิจบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) มอบประสบการณ์สุขภาพดีให้แก่ ผู้พักอาศัย ด้วยพูลวิลล่าระดับ 5 ดาว ตั้งตระหง่านริมทะเล ท่ามกลางธรรมชาติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย้ำจุดแข็งที่ตั้งโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ “อีอีซี” พร้อมก้าวสู่ “จุดหมายปลายทาง” ที่พักอาศัยด้านสุขภาพระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ในอนาคต ซึ่งปีนี้มีแผนจะเริ่มก่อสร้างพื้นที่ส่วนกลางในรูปแบบ Beach Bar เพิ่มเติมอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 66)
Tags: GRAND, ธุรกิจโรงแรม, วิทวัส วิภากุล, อสังหาริมทรัพย์, เศรษฐกิจ, แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้