นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบตามภูมิภาค จากขาดปัจจัยใหม่หนุน หลังวานนี้ปรับตัวลงรับข่าวคาดการณ์เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งไปพอสมควรแล้ว ให้แนวรับไว้ที่ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังเมื่อวานตลาดปรับตัวลงรับข่าวคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งไปพอสมควรแล้ว และเริ่มเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้น ทำให้วันนี้น่าจะย่อตัวลงไม่มาก แต่อัพไซด์ก็ยังจำกัด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน
ให้แนวรับไว้ที่ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.02 จุด ลดลง 34.99 จุด หรือ -0.10%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,111.08 จุด ลดลง 25.40 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,887.45 จุด ลดลง 119.50 จุด หรือ -1.00%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,744.90 จุด เพิ่มขึ้น 51.25 จุด หรือ +0.19%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,288.39 จุด เพิ่มขึ้น 66.23 จุด หรือ +0.31% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,245.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.20%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.พ.66) 1,682.11 จุด ลดลง 6.25 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 47,903.55 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,275.05 ลบ.เมื่อวันที่ 6 ก.พ.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล (6 ก.พ.66)
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.พ.) อยู่ที่ 7.39 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.75 อ่อนค่าต่อเนื่อง ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
- ตลท.เผยอยู่ระหว่างศึกษา-รับฟังข้อเสนอ จัดตั้ง “กระดานหุ้นอีอีซี” ว่าแตกต่างจาก 3 กระดานเทรดปัจจุบันอย่างไร แจงหากไม่แตกต่างสามารถเข้าระดมทุนปัจจุบันได้ “คณิศ” หวังเปิดช่องบริษัทในอีอีซี เข้าถึงแหล่งระดมทุน
- “คมนาคม” ลุยชง ครม. 7 ก.พ.66 เพิ่มวงเงินก่อสร้าง M6 บางปะอิน-โคราช จำนวน 12 ตอน 4.9 พันล้าน พร้อมเดินหน้าเปิดทางเอกชนร่วมลงทุนที่พักริมทางศรีราชา-บางละมุง มอเตอร์เวย์สาย 7
- “คลัง” แจงลดราคาดีเซลช้ากว่าตลาดโลก เหตุยังต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หวังเป็นกลไกดูแลสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศระยะยาว มองเป็นผลดีสำหรับกลุ่มโลจิสติกส์ พร้อมระบุเป็นหน้าที่ กนง.พิจารณาชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังประเมินเงินเฟ้อทยอยลดลง
*หุ้นเด่นวันนี้
- HTC (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 38 บาท ผูกขาดจำหน่ายเครื่องดื่มโค้กที่ภาคใต้แต่เพียงผู้เดียว ราคาหุ้นยัง laggard จากหุ้นเครื่องดื่มและท่องเที่ยว ผลประกอบการจะทยอยเร่งตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/65 จากการเปิดประเทศ และปรับราคาขายขึ้น 6% นับตั้งแต่เดือน ก.ย.65
- JWD (กสิกรไทย) แนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 24.02 บาท คาดจะรายงานกำไรไตรมาส 4/65 ที่ 127 ล้านบาท ลดลง 27.8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 13.9% QoQ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวกระทบผลประกอบการล่าสุด ผลการดำเนินงานโดยรวมปี 65 ยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่ารายได้ ส่วนแบ่งกำไร และกำไรปกติจะทำสถิติสูงสุดใหม่ การควบรวมกิจการกับ SCGL จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นที่สำคัญในระยะยาว ข้อตกลง M&A ใหม่จะเพิ่มมูลค่าในระยะสั้น
- KKP (เอเอสแอล) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย ปี 66 อยู่ที่ 87.50 บาท คาดหวังสินเชื่อยังเติบโตโดดเด่น การควบคุมต้นทุนการเงินและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ รายได้ค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนที่ยังเติบโต และประมาณการกำไรสุทธิอาจแตะระดับ 8 พันล้านบาท ทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง ประเมิน ROE สิ้นปี 66 ราว 13-14% คาดหวังจ่ายปันผลงวด 2H65 ที่ 3.00 บาท/หุ้น (รวมทั้งปีจ่าย 4.75 บาท/หุ้น) คิดเป็น Dividend yield คาดหวังที่ 4.4%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย