เบริล 8 พลัส-บลูบิค ผนึกกำลังรุก Green Tech จับตลาด Net Zero ทั้งในและต่างประเทศรับแนวโน้มเติบโตสูงเป็นเมกะเทรนด์โลก มูลค่าตลาดในประเทศเฉียดพันล้าน 2 ซีอีโอมั่นใจศักยภาพแข่งขันบริษัทเทคฯระดับโลกได้ จากจุดแข็งคนละด้านสามารถนำมาต่อยอดเสริมความแข็งแกร่งสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน
นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เบริล 8 พลัส (BE8) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ในการจัดตั้งบริษัทใหม่ในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม (Green Tech) โดยมีขอบเขตในการให้คำปรึกษา รวมถึงให้บริการพัฒนาและติดตั้งระบบเทคโนโลยีด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Technology) และการทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร (Carbon Accounting) สำหรับกลุ่มธุรกิจสีเขียว (Green Business)
สำหรับธุรกิจการให้บริการและให้คำปรึกษาในด้าน Green Tech ถือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะเรื่องของ Net Zero และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ทำให้หน่วยงานภาครัฐต้องเป็นผู้นำในการให้ความรู้ สร้างมาตรฐานในการวัดและประเมินผล รวมถึงออกกฎหมายต่างๆ เพื่อให้องค์กรที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสนับสนุนให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้
ปัจจุบันภาคเอกชนเริ่มมีการตื่นตัวในการบริหารจัดการเรื่อง Net Zero อย่างจริงจัง ทำให้กลุ่ม BE8 มองเห็นโอกาสของธุรกิจการให้บริการและให้คำปรึกษาด้านนี้ จึงตัดสินใจร่วมทุนกับ BBIK โดยในปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดบริการด้านเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (Green IT Services) ในประเทศไทย อยู่ที่ 960 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็น 1,400 ล้านบาท ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ะเป็นบริษัทและองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ในประเทศที่ต้องขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย Net Zero
“แม้ BE8 และ BBIK จะอยู่ในธุรกิจเดียวกัน แต่เราไม่ใช่คู่แข่งกัน ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นและเราเชื่อว่าในอนาคตยังมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกันอีกหลายโปรเจค เพื่อขับเคลื่อนทุกธุรกิจให้ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี “ นายอภิเษก กล่าว
ด้านนายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK กล่าวว่า การผนึกกำลังของ 2 ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับทั้ง 2 องค์กรเพื่อให้แข่งขันกับบริษัทเทคฯระดับโลก และพร้อมเปิดประตูสู่การขยายธุรกิจด้าน Green Tech ที่ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา การพัฒนาและติดตั้งระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งปัจจุบันกระแสการพัฒนาองค์กรธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG ได้กลายเป็นพันธกิจสำคัญขององค์กรชั้นนำระดับโลก ด้วยการปรับเปลี่ยนตนเองสู่องค์กรรักษ์โลก (Green Organization) เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจนี้ในประเทศไทยที่กระแสของการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรรักษ์โลก หรือ Carbon Footprint for Organization : CFO ที่ยังอยู่ในช่วงต้น
“ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและปัญหาสิ่งแวดล้อม กำลังกดดันให้ภาคธุรกิจมุ่งสู่การเติบโตแบบยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากเมกะเทรนด์นี้ ทำให้ บลูบิคและเบริล 8 พลัส เห็นถึงโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายการดำเนินนโยบาย ESG ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่องค์กรรักษ์โลกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติให้ดีขึ้น” นายพชร กล่าว
นอกจากนี้ BE8 และ BBIK เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในการผสานจุดแข็งด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของ 2 องค์กร เพื่อปูทางสู่การผลักดันเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านองค์กรธุรกิจของลูกค้า ให้รับมือกับเทรนด์และความท้าทายใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้ในที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 66)
Tags: BBIK, BE8, บลูบิค, หุ้นไทย, เบริล 8 พลัส