ITTHI จ่อขาย IPO 70 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai ปีนี้หลังนับหนึ่งไฟลิ่ง

นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวาณิชธนกิจ 3 บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น (ITTHI) เปิดเผยว่าว บริษัทเตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปีนี้ ในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ ITTHI

ITTHI ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET (Internet Every Thing หรือ IoE : Internet of Everything หรือ IoT : Internet of Things หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่ทุกสิ่ง ถูกเชื่อมโยงด้วยอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ เครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น) และผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ

การประกอบธุรกิจของ ITTHI สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์ประเภท IET (Internet Every Thing) โดยบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่างประเภท หลอดไฟ โคมไฟ และส่วนควบอื่นๆ ด้วยเครื่องหมายการค้าในนาม “LIGHTTRIO” และแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมทั่วไป

และธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ โดยบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการจดแจ้งการผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางประเภทแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือและผิวกาย ชนิดไม่ล้างออก ในลักษณะเจล สเปรย์ไม่อัดแก๊ส และของเหลว ในบรรจุภัณฑ์หลากหลายแบบและหลากหลายขนาด ภายใต้แบรนด์ “UNION CLEAN” รวมถึงการรับจ้างผลิตแบบ OEM แก่ลูกค้าที่สนใจทั่วไป

จุดเด่นของ ITTHI บริษัทมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากกว่า 24 ปี โดดเด่นในทีมงานที่พร้อมให้บริการ CREATIVITY ความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม, FAST Logistics การจัดส่งที่รวดเร็ว, AFTER SERVICE บริการหลังการขายที่ดี, การพัฒนาการความรู้และความสามารถของทรัพยากรบุคคลของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ, การรักษาฐานลูกค้าเดิมให้เกิดการซื้อและใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทได้แก่ กลุ่มลูกค้าโครงการ กลุ่มลูกค้าขายส่ง กลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่มลูกค้าราชการ

นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITTHI เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนใน mai นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต โดยมีเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง พลังงานทดแทน อุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะ

บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย เพื่อทำให้ทุกสถานที่ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต ประหยัดพลังงาน มีบรรยากาศที่สวยงามและมีความปลอดภัย โดย ITTHI จะร่วมแบ่งปันความสุขความประทับใจผ่านแสงสว่างในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของ ITTHI

วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และในกรณีที่ระยะเวลาเหมาะสม หรือเกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการภายในปี 66-67 รองรับการเติบโตของ ITTHI เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวโยงกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย เช่น คอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรร รวมถึง อาคารทุกประเภท เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โชว์รูม ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม โรงเรียน คลังสินค้า สนามบิน รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า หรือมีรูปแบบสวยงามกว่า และการซื้อเพื่อทดแทนของเดิมที่ชำรุดหรือหมดอายุ ดังนั้น การเติบโตและการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการขยายตัวของผลประกอบการของบริษัท

ส่วนผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อประเภทแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่จำหน่ายแก่ลูกค้าปลายทาง ซึ่งเป็นผู้ใช้โดยตรง เนื่องจากในปัจจุบันมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากสถานการณ์ COVID-19 แต่ ณ ปัจจุบัน อุตสาหกรรมดังกล่าวต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นจากอุปทานของผู้ผลิตในตลาดที่เข้าสู่อุตสาหกรรมในจำนวนที่มากขึ้น

ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 62-64) กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 186.28 ล้านบาท 231.21 ล้านบาท และ 216.02 ล้านบาท ตามลำดับ และสำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 64 และปี 65 เท่ากับ 99.79 ล้านบาท และ 99.42 ล้านบาท ตามลำดับ

บริษัทมีรายได้หลักจากการจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสัดส่วน 73.78-99.24% ของรายได้รวม และรายได้จากผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแบรนด์ UNIONCLEAN สัดส่วน 1.60-25.58% ของรายได้รวม

ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.83 ล้านบาท 18.49 ล้านบาท 15.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.66% 8.00% และ 6.96% ตามลำดับ และในงวด 9 เดือนปี 64 และ 65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.56 ล้านบาทและ 10.96 ล้านบาทตามลำดับ โดยสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวโน้มของภาพรวมของธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลงเป็นหลัก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 66)

Tags: , , ,
Back to Top