สำนักข่าวบลูเบิร์กรายงานในวันนี้ (1 ก.พ.) ระบุว่า ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศร่ำรวยที่รับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีที่สุดอีกต่อไป โดยหนึ่งในประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากที่สุดในโลกแห่งนี้ กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ที่สุดอย่างเงียบ ๆ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนนั้นล้นระบบสาธารณสุขในช่วงฤดูหนาวนี้ และการรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 500 รายเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากผลสำรวจวิจัยของ Our World in Data พบว่า ยอดการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของญี่ปุ่นสูงกว่าของนิวซีแลนด์ โดยในบรรดาประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) รวม 38 ประเทศ นั้น นิวซีแลนด์มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด
ส่วนอัตราการติดเชื้อในญี่ปุ่นกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ แม้เป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดติดเชื้อน้อยที่สุดในโลก
นายโนริโอะ โอมางาริ หัวหน้าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ประจำศูนย์สาธารณสุขโลกและการแพทย์แห่งชาติ และที่ปรึกษารัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนมีโอกาสมากขึ้นที่จะติดเชื้อเป็นครั้งแรกในฤดูหนาวนี้ ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ทั้งนี้ ความสำเร็จในการรับมือกับโรคโควิด-19 มาอย่างยาวนานของญี่ปุ่นเป็นผลมาจากการสวมหน้ากากอนามัย, การฉีดวัคซีนในวงกว้าง และมีประชากรที่สุขภาพดี บวกกับการเข้าถึงระบบรักษาพยาบาลที่ง่ายดาย
นายโอมางาริกล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าประเทศอื่น ๆ ญี่ปุ่นเป็นประเทศสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ นั่นหมายความว่า ผู้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอยู่ในสัดส่วนที่สูง และในระยะยาว มีความเป็นไปได้ว่า ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดที่สูงมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 66)
Tags: COVID-19, ญี่ปุ่น, ฤดูหนาว, โควิด-19