คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐระบุเมื่อวันจันทร์ (30 ม.ค.) ว่า จะยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโรคโควิด-19 ในวันที่ 11 พ.ค. หลังสหรัฐประกาศใช้มานานเกือบ 3 ปีเพื่อมอบอำนาจให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการควบคุมโรคระบาดได้อย่างเต็มที่แบบถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติและสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากโรคโควิด-19 หรือ PHE ถูกประกาศใช้เป็นครั้งแรกในปี 2563 โดยคณะบริหารภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่ปธน.ไบเดนจะดำเนินการขยายเวลาอีกหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่กำลังบังคับใช้กันอยู่ในขณะนี้ใกล้จะหมดอายุลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
สำนักการจัดการและการงบประมาณ (OMB) ของทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวอีกครั้ง โดยจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 11 พ.ค. จากนั้นจะไม่มีการต่ออายุอีก
“การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจะเป็นไปตามคำมั่นของคณะบริหารสหรัฐที่เคยให้สัญญาว่าจะแจ้งเรื่องการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน” OMB ระบุในแถลงการณ์
นอกจากนี้ OMB แถลงด้วยว่า ปธน.ไบเดนจะใช้สิทธิ์ยับยั้ง หรือวีโต้ (Veto) ร่างกฎหมายฉบับหนึ่งที่มีการเสนอในสภาคองเกรสสหรัฐ โดยเนื้อหาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้ยกเลิกคำสั่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ทำงานในโครงการสำคัญของรัฐบาลกลาง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 66)
Tags: COVID-19, สถานการณ์ฉุกเฉิน, สหรัฐ, โควิด-19