จับตาความชัดเจนของดีลการเจรจาระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ซึ่งบ่ายวันนี้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.ได้นัดหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่สโมสรราชพฤกษ์ เปิดโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้แกนนำทั้ง 2 พรรคหารือกันระดับหนึ่งแล้ว
การพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นจากการดีลของทีมยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เบื้องต้นคาดว่าแกนนำพรรค สอท.จะเข้ามาช่วยดูในเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจ หลังจากนายสมคิด และ นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เคยเป็นแกนนำคนสำคัญในพรรค พปชร.ก่อนที่ยกทีมลาออกไปตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ทำให้ทีมเศรษฐกิจของพรรค พปชร.ขาดหัวจักรสำคัญ
การกลับมาของ 4 กุมารจะเสริมความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจให้กับ พปชร.ที่มีจุดแข็งเรื่องฐานเสียงทางการเมือง ขณะที่ไม่มีข้อกังวลใจจากการที่แกนนำสร้างอนาคตไทยเคยประกาศไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ายไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว เส้นทางการกลับบ้านเดิมของทีม “สมคิด” จะราบรื่นหรือไม่ยังต้องจับตาบ่ายวันนี้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้ความเห็นว่า นายสมคิดและนายอุตตม มีความตั้งใจที่จะมาช่วยทำงานให้กับประชาชน เลยขอเข้ามาร่วมกับพรรค ซึ่งถือเป็นเรื่องดี จะทำให้มีความแข็งแกร่งขึ้น และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความขัดแย้งกัน บางครั้งอาจมีความคิดไม่ตรงกันบ้าง ก็อาจจะถอยไประยะหนึ่ง เพราะพรรคพลังประชารัฐมีประชาธิปไตยสูงสุด อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นพรรคทหารอย่างที่คิดกัน และเมื่อจะมีการกลับมาร่วมกันใหม่ก็ไม่ได้มีความเสียหาย
“เราไม่ได้มีความขัดแย้ง ผมอยู่พรรคนี้มาตั้งแต่แรก แต่พรรคเรามีความเป็นประชาธิปไตยสูงสุด อาจจะมีความคิดไม่ตรงกัน แต่วันหนึ่งเมื่อเห็นความจริงว่าพรรคพลังประชารัฐ ทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง จะกลับมาบ้านเก่า มาร่วมกันพัฒนาบ้านเมือง ถ้าอยากมาก็มาช่วยกัน ไม่ได้เสียหายอะไร ส่วนจะมาอยู่ในตำแหน่งอะไรก็เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ว่าจะมาคนในคนหนึ่งจะมาชี้นำได้”
นายสันติ กล่าว
ขณะนี้ ภายในพรรคพลังประชารัฐมีผู้เชี่ยวชาญ ด้านเศรษฐกิจหลายคน เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แต่ถ้ายิ่งเสริมเข้ามาก็จะมีความแข็งแกร่ง และผลประโยชน์จะไปตกที่ประชาชน
“ขณะนี้มีผู้มีความสามารถ มีชื่อเสียงเป็นผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ก็มีติดต่อเข้ามาร่วมพรรคจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าพรรคของเรามีความตั้งใจในการแก้ปัญหา พัฒนาในด้านเศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญเราก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นสมคิดก็ดี อุตตมก็ดี ถ้ามีความตั้งใจทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ก็ไม่ได้มีความเสียหายอะไร”
นายสันติ กล่าว
สำหรับเส้นทางการเมืองของพรรคสร้างอนาคตไทย ก่อนจะมาถึงวันนี้
- ก.ค. 63 นายสมคิด นายอุตตม นายสนธิรัตน์ พร้อมด้วยสมาชิกในกลุ่ม 4 กุมาร ได้ประกาศลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ
- 19 ม.ค.65 นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ร่วมกันเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมประกาศไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
- 8 ก.ย.65 เปิดตัว นายสมคิด นั่งเก้าอี้ประธานพรรคฯ
- 17 ต.ค.65 นายอุตตม ออกมายอมรับกำลังเจรจาควบรวมกับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ภายใต้โมเดลเสริมความแข็งแกร่งให้กัน โดย สอท.จะดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ส่วน ทสท.จะดูแลเรื่องการเมือง
- 29 ธ.ค.65 แกนนำ สอท.-ทสท.ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง แต่ยังไม่ใช่การควบรวมพรรค
- 24 ม.ค.66 นายอุตตม เผยจะมีความชัดเจนเรื่องควบรวม สอท.-ทสท.ภายใน 2 สัปดาห์
ระหว่างที่มีการเจรจาควบรวม สอท.-ทสท. แกนนำพรรค สอท.อย่างนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาตร์ภาคใต้ ก่อนที่จะประกาศเข้าร่วมทำงานกับพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 เหมือนเป็นการปูทางก่อนจะมาถึงวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ม.ค. 66)
Tags: การเมือง, พปชร., พรรคพลังประชารัฐ, พรรคสร้างอนาคตไทย