TEGH พุ่ง 8.33% หรือเพิ่มขึ้น 0.45 บาท มาที่ 5.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 168.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. จากราคาเปิด 5.40 บาท ราคาสูงสุด 5.90 บาท ราคาต่ำสุด 5.35 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ดีดตัวขึ้นมาจากราคายางธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด หลังจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด โดยจีนเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่สุดของโลกเมื่อเปิดประเทศก็ทำให้มีความต้องการใช้ยางเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ TEGH ที่กดดันผลประกอบการไตรมาส 3/65 กลับมาปรับตัวขึ้น ธุรกิจกลับมา Turnaround โดยในไตรมาส 4/65 มีกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาส 3/65 จากกำไรค่าเงิน แต่กำไรจากธุรกิจหลักยังชะลอจากไตรมาส 3/65
ส่วนไตรมาส 1/66 จากราคายางที่ปรับตัวขึ้น หนุนด้วยธุรกิจปาล์มน้ำมันที่แนวโน้มดีขึ้น เชื่อว่าจะทำให้กำไรต้นปีนี้เติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่ราคาหุ้น Valuation ต่ำ แนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุว่า คาด TEGH จะมีกำไรปกติไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 155 ลบ. เพิ่มขึ้น 21.4% YoY จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 30.5% จากอุปสงค์ที่ต่ำตามฤดูกาล และ ASP ที่ลดลง แต่คาดแนวโน้มไตรมาส 1/66 จะปรับดีขึ้น กำไรน่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ คาดความต้องการยางจะแข็งแกร่งขึ้น และราคา TSR20 ปรับตัวสูงขึ้น และ คาดเงินปันผลปี 66 สูงที่ 5% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 6.20 บาท เชื่อ TEGH ยังซื้อขายกันถูกเกินไปเมื่อเทียบกับโปรไฟล์การเติบโตของกำไร และเงินปันผล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 66)
Tags: TEGH, หุ้นไทย, ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์