นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูง ในกรอบวงเงิน 7,500 ล้านบาท โดยมาจากงบกลาง 3,200 ล้านบาท และเงินสนับสนุนจากบมจ.ปตท. (PTT) 4,300 ล้านบาท สำหรับเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค. – เม.ย. 66 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้
- ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 92.04 สต./หน่วย โดยมีผลต่างค่า ft เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สต./หน่วย
- ผู้ใช้ไฟฟ้า ระหว่าง 151 – 300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 67.04 สต./หน่วยโดยมีผลต่างค่า ft เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สต./หน่วย
ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 19.66 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7, 500 ล้านบาทหรือประมาณ 1868.06 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน
ที่ผ่านมา ครม.ได้มีมติเห็นชอบมาตรการด้านราคาค่าไฟฟ้า โดยการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า ft) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่พ.ค. – ส.ค. 65 วงเงิน 1,724.90 ล้านบาท และ มติครม.เห็นชอบช่วยเหลือ ค่า ft แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือนระยะเวลา 4 เดือน (ก.ย.- ธ.ค. 65 ) วงเงิน 9,128.4120 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลได้ช่วยค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้นไปแล้ว 18,353. 362 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 66)
Tags: ค่าไฟ, ค่าไฟฟ้า, ประชุมครม., มติคณะรัฐมนตรี, ราคาพลังงาน, อนุชา บูรพชัยศรี