สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อินเดียมีแนวโน้มจะกำหนดตัวเลขการเติบโตของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไว้ที่ราว 11% ในงบประมาณ 2566/2567
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าชะลอตัวลงเพราะคาดว่าอินเดียจะได้รับปัจจัยกดดันจากการส่งออกที่ซบเซา เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มจะเผชิญกับภาวะถดถอย เมื่อเทียบกับปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. ที่เคยคาดไว้ว่าจะโต 15.4%
ทั้งนี้ การเติบโตของมูลค่า GDP คำนวณรวมอัตราเงินเฟ้อและเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ใช้เพื่อคาดการณ์การเก็บภาษี
เการะ เส็งคุปต์ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารไอดีเอฟซี เฟิร์สต์ แบงก์ เปิดเผยว่า จากมูลค่า GDP ที่ 10.6%-11% จะทำให้อัตราการเติบโตของการจัดเก็บภาษีขั้นต้นของอินเดียมีแนวโน้มจะอยู่ที่ราว 8% ในปีงบประมาณ 2566/2567 เมื่อเทียบกับ 14.5% ในปีปัจจุบัน
แหล่งข่าวระบุว่า “ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อตัวเลขประมาณการดังกล่าวมากที่สุด คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอินเดีย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 66)
Tags: GDP, อัตราเงินเฟ้อ, อินเดีย, เศรษฐกิจอินเดีย