DOD เปิดดีลใหญ่เจรจาเทคฯธุรกิจอาหารเสริมในออสเตรเลียควบคู่ผุดเฮ้าส์แบรนด์ดันมาร์จิ้นหนุนเทิร์นอะราวด์

น.ส.สุวารินทร์ ก้อนทอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายผลักดันผลประกอบการในปี 66 Turnaround ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลัก 3 ส่วน ที่จะเข้ามาสร้างการเติบโตของรายได้ และเสริมความแข็งแกร่งของกำไร

โดยเฉพาะแผนการเปิดเจรจากับพันธมิตรในออสเตรเลียที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมชื่อดัง ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดอยู่แล้วราว 10 SKU เช่น นมผึ้ง เป็นต้น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าไปเจรจาควบรวมกิจการดังกล่าว คาดว่าจะมีมูลค่าดีลหลายสิบล้านบาท หากมีข้อสรุปการเจรจาในเบื้องต้นก็จะเข้าไปทำ Due Diligence ทันที

พร้อมกันนั้น บริษัทจะนำแผนพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองมาพิจารณาอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอไปในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งแผนงานครั้งนี้จะร่วมมือกับ Influencer ชื่อดังออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์แรก 1 SKU ออกมาได้ในเดือนก.พ.นี้ และหลังจากนั้นก็จะออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันเพิ่มเติมอีกราว 4-5 SKU เน้นการขายผ่านทุกช่องทางออนไลน์

“ก่อนหน้านี้เรารับผลิต OEM อย่างเดียว แล้วลูกค้าเอาไปสร้างแบรนด์ของตัวเองไปขายในตลาดได้มาร์จิ้นค่อนข้างดี จึงเป็นอีกช่องทางที่เรามองเห็นโอกาสที่จะกลับมามุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์ของตัวเองเพื่อสร้างกำไรให้กลับมาเติบโต”น.ส.สุวารินทร์ กล่าว

น.ส.สุวารินทร์ กล่าวว่า ทั้ง 2 ส่วนนี้ หากสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้น่าจะสร้างรายได้เพิ่มเข้ามาได้ส่วนละ 100 ล้านบาท/ปี แต่ในการสร้างแบรนด์สินค้าของบริษัทเองจะให้กำไรสูงมากกว่าเดิมที่เคยรับจ้างผลิตแบบ OEM

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ได้ยื่นขอไลเซ่นส์การนำ Cannabidiol (CBD) มาผลิตเป็นยาสมุนไพรไทย ซึ่งได้ยื่นไปแล้วตั้งแต่ 6 เดือนก่อน โดยวางแผนสารสกัดกัญชงนำมาผลิตเป็นยาหยดใต้ลิ้นเพื่อช่วยการนอนหลับเป็นสินค้าตัวแรก

น.ส.สุวารินทร์ กล่าวว่า แต่เดิมบริษัทเคยรับจ้างผลิตสินค้าช่วยการนอนหลับให้กับลูกค้าหลายรายที่ใช้ส่วนผสมของ CBD ค่อนข้างต่ำตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่เกินปริมาณบริโภค 0.05 มิลลิกรัม/วัน แล้วผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นที่มีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ขณะนี้ทางสาธารณสุขเปิดให้เพิ่มปริมาณบริโภคเป็นไม่เกิน 0.55 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น ก็คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาจ้างให้บริษัทผลิตสินค้าตัวนี้เพิ่มขึ้นด้วย

“ทั้ง 3 ส่วนนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนหลักให้บริษัทฯ เทิร์นอะราวด์ได้ในปีนี้”น.ส.สุวารินทร์ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top