นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ว่า ได้ลงพื้นที่โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ที่เดิมกรมธนารักษ์ได้ให้ บมจ.บริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรืออีสวอเตอร์ เป็นผู้บริหารจัดการโครงการไปพลางก่อน และต่อมาบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้สัญญาบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.65 จึงต้องมีการส่งมอบทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ ในฐานะคู่สัญญาฝ่ายรัฐ เพื่อให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ไปดำเนินการตามสัญญาบริหารฯ
รมช.คลัง กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจสอบรายการทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง รวมถึงรับทราบปัญหา อุปสรรค และมอบแนวทางแก้ไข อำนวยความสะดวก เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการส่งมอบทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง ในส่วนของโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนโครงการท่อส่งน้ำดอกกรายนั้น อีสวอเตอร์ ยังคงดำเนินกิจการได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญา
ด้านนายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้เตรียมความพร้อมเพื่อการส่งมอบทรัพย์สินของรัฐในส่วนของโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) โดยกรมธนารักษ์, อีสวอเตอร์ และวงษ์สยามก่อสร้าง ได้ร่วมกันดำเนินการสำรวจทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อและโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2)
รวมทั้งได้ประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.66 กรณีการขอสนับสนุนการใช้น้ำจากแหล่งน้ำของกรมชลประทาน ในการดำเนินโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และเพื่อรับทราบความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการส่งมอบทรัพย์สิน ซึ่งผู้บริหารของกระทรวงการคลัง, อีสวอเตอร์ และวงษ์สยามก่อสร้างจึงได้ลงพื้นที่ร่วมกันในครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 66)
