ขุนคลังญี่ปุ่นกังวลสถานะการคลัง หลังผู้ถือบอนด์เรียกร้อง BOJ ขยายกรอบบอนด์ยีลด์เพิ่ม

นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากนักลงทุนในตลาดพันธบัตรพยายามเรียกร้องให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเปิดทางให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยระยะยาวจะส่งผลให้หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นอีก จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงกว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึง 2 เท่า ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น

ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่อยู่ในระดับใกล้ 0% แต่เมื่อไม่นานมานี้นักลงทุนในตลาดพันธบัตรพยายามเรียกร้องให้ BOJ ขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีให้กว้างกว่า +0.5% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี หรือสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของ BOJ ถึงสองเท่า

“สถานะการคลังของรัฐบาลญี่ปุ่นในขณะนี้มีความเสี่ยงในระดับที่ไม่อาจคาดเดาได้ เนื่องจากเราได้ทุ่มงบประมาณไปกับการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด และปัญหาอื่น ๆ” นายซูซูกิแถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้

นายซูซูกิได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายการเกินดุลงบประมาณของรัฐบาลในปีนี้ ซึ่งไม่รวมการขายพันธบัตรชุดใหม่ และต้นทุนในการชำระหนี้ดอกเบี้ยและเงินต้นตามกำหนด (debt-servicing) แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างสมดุลด้านงบประมาณ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นประมาณการว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 1% จะส่งผลให้ยอดการชำระหนี้ดอกเบี้ยและเงินต้นของรัฐบาลพุ่งขึ้น 3.7 ล้านล้านเยน (2.9 หมื่นล้านดอลลาร์) แตะที่ 32.5 ล้านล้านเยน (2.51 แสนล้านดอลลาร์) ในปีงบประมาณ 2568/2569

ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. คณะกรรมการ BOJ มีมติขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25%

อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (23 ม.ค.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตัวแทนของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการประชุม BOJ ในครั้งนั้น ได้เรียกร้องให้ BOJ เลื่อนการแถลงมติการประชุม หลังมีสัญญาณว่า BOJ จะปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve Control – YCC) ในการประชุมดังกล่าว

รายงานการประชุมระบุว่า ตามกำหนดการนั้น การแถลงมติการประชุมของวันที่ 20 ธ.ค.จะมีขึ้นในเวลา 10.51 น.ตามเวลาท้องถิ่น แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลขอให้เลื่อนออกไปเป็นเวลา 11.28 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเลื่อนแถลงมติการประชุมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top