หุ้นไทยปิดเช้าบวก 5.83 จุด รับแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์-จีนปลดล็อกกรุ๊ปทัวร์หนุน

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,683.08 จุด เพิ่มขึ้น 5.83 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,955 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบๆ อยู่ในแดนบวก เป็นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย รับแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์ หลังวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงแรง และยังได้ปัจจัยหนุนจากรัฐบาลจีนปลดล็อกกรุ๊ปทัวร์ ให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปได้ใน 20 ประเทศ รวมไทยด้วย แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ มูลค่าซื้อขายเบาบาง ให้แนวรับไว้ที่ 1,670 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด

  • SET ปิดช่วงเช้านี้ที่ 1,683.08 จุด เพิ่มขึ้น 5.83 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,955 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีแกว่งตัวแดนบวก โดยทำระดับสูงสุด 1,684.64 จุด และระดับต่ำสุด 1,677.52 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบในแดนบวก สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดทำการในวันนี้ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น เป็นต้น

ตลาดบ้านเรารับปัจจัยหลักคือแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ KTB หลังเผชิญแรงขายในสัปดาห์ก่อนหลังจากผิดหวังงบการเงินปี 65 ที่ประกาศออกมา ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงกลุ่มไฟแนนซ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วด้วย ขณะที่ได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากการที่รัฐบาลจีนปลดล็อกกรุ๊ปทัวร์ให้สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ โดยไทยติดอันดับ 1 ใน 20 ประเทศที่กรุ๊ปทัวร์จีนสามารถเดินทางมาได้

แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดดัชนีน่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ เนื่องจากมูลค่าซื้อขายที่เบาบางช่วงที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน

ให้แนวรับไว้ที่ 1,670 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,727.40 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 891.42 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 792.50 ล้านบาท ปิดที่ 870.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
  • KTB มูลค่าการซื้อขาย 787.32 ล้านบาท ปิดที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 780.97 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top