ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ประกาศเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ว่า บริษัทได้คุมเข้มกฎเกณฑ์สำหรับการจดทะเบียน NFT (nonfungible token) โดยนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทจะเพิกถอน NFT ทั้งหมดที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 2 ต.ค. 2565 รวมถึง NFT ที่มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ในระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2565 – 31 ม.ค. 2566
นอกจากนี้ หลังจากวันที่ 21 ม.ค. ศิลปิน NFT สามารถสร้างผลงานดิจิทัลได้สูงสุด 5 ชิ้นต่อวันเท่านั้น
เว็บไซต์ cointelegraph.com รายงานว่า ไบแนนซ์กำหนดให้ผู้ขาย NFT ทำการยืนยันตัวตนใน Know Your Customer (KYC) ให้เสร็จสมบูรณ์และต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 2 รายก่อนที่จะขอจดทะเบียนบนแพลตฟอร์ม
นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่มีการปรับแก้ไขแล้วนั้น ไบแนนซ์ระบุว่า บริษัทจะดำเนินการทบทวนการจดทะเบียน NFT เป็นระยะสำหรับ NFT ที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน และจะแนะนำให้พวกเขาเพิกถอน NFT
นอกจากนี้ ของสะสมดิจิทัล (Digital Collectible) ทั้งหมดที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ก็จะถูกเพิกถอนโดยอัตโนมัติภายในวันที่ 2 ก.พ. 2565 แต่สินทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนจะยังคงปรากฏอยู่ในกระเป๋าเงินของผู้ใช้หลังจากนั้น
นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไบแนนซ์ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องมาตรการ KYC ที่หละหลวม รวมถึงบทบาทในการจัดการเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางไบแนนซ์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา
ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงินของบริษัทบิตซ์ลาโต (Bitzlato) ที่ปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค. เครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN) ของสหรัฐระบุว่า ไบแนนซ์เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกที่เป็นคู่สัญญาของบิตซ์ลาโต
ทั้งนี้ ตามรายงานก่อนหน้านี้ ไบแนนซ์เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีที่ยังคงให้บริการชาวรัสเซียที่ไม่ถูกลงโทษตามมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหภาพยุโรป (EU)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 66)
Tags: Binance, Cryptocurrency, NFT, คริปโทเคอร์เรนซี, ไบแนนซ์