ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน 0.25% สู่ 5.75% ในการประชุมวันนี้ (19 ม.ค.) ซึ่งทำให้วงจรการคุมเข้มทางการเงินของ BI ใกล้มาถึงจุดสิ้นสุด เนื่องจากต้องรักษาสมดุลระหว่างการลดเงินเฟ้อและการรักษาแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ 23 จาก 28 คนจากผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า BI จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วันสู่ระดับ 5.75% ส่วนนักเศรษฐศาสตร์อีก 5 คนที่เหลือคาดการณ์ว่า BI จะตรึงอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว
นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการ BI ระบุว่า “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นไปเพื่อลดคาดการณ์เงินเฟ้อแบบต่อเนื่อง”
การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า BI ยังคงมุ่งความสนใจไปที่การควบคุมเงินเฟ้อ โดย BI ปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 2.25% นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นแบบไม่คาดหมายเมื่อเดือนที่แล้ว อาจอยู่เหนือกว่ากรอบเป้าหมาย2%-4% ของ BI ต่อไป เนื่องจากค่าอาหารและค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้นก่อนถึงเทศกาลรอมฎอน
ทั้งนี้ นายวาร์จิโยระบุว่า ทาง BI ได้ยืนยันตัวเลขประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2566 ในช่วงกึ่งกลางระหว่าง 4.5%-5.3%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 66)
Tags: ธนาคารกลางอินโดนีเซีย, อินโดนีเซีย, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย