รมว.คลัง ร่วมประชุม WEF ชูโมเดล BCG-ท่องเที่ยวไทย ฟื้นศก.หลังโควิด

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2566 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้เข้าร่วมการเสวนาในฐานะผู้เสวนาหลัก ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก” และหัวข้อ “พันธสัญญาสีเขียวของอาเซียน” โดยมีผลการเสวนาสรุปได้ ดังนี้

1. การเสวนาหัวข้อการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้เข้าร่วมการเสวนาได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะในธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว โดย รมว.คลัง ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของไทยต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยว ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข อาทิ การดำเนินการภายใต้ Phuket Sandbox

และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ไทยมีนโยบายในการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวให้เข้าถึงชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย และลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก รวมถึงสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายและใช้เวลาในประเทศให้มากขึ้น โดยใช้ยุทธศาสตร์ 5F (Food, Fashion, Festival, Fighting (Thai Boxing), Film) และเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ไทยอาจพิจารณาดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) ในอนาคต เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในธุรกิจการบินด้วย

2. การเสวนาหัวข้อพันธสัญญาสีเขียวของอาเซียน การเสวนาเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อให้อาเซียนบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดย รมว.คลัง ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของไทยในการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และความตกลงปารีส ซึ่งไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ 2022 ครั้งที่ 27 (COP27) ที่จะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608

ในการนี้ ไทยจึงได้ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model) รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) อาทิ การออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bond) การออกตราสารหนี้ข้ามพรมแดน โดยอนุญาตให้บริษัทต่างชาติออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนในสกุลเงินบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ รมว.คลัง ได้หารือทวิภาคีกับผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชน ได้แก่ Mr. Ryan McInerney ประธานบริษัท Visa เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาใช้ในระบบภาษีและระบบการชำระเงิน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และการหารือทวิภาคีกับ Mr. Sigve Brekke ประธานบริษัท Telenor Group เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในไทย โดยเฉพาะการลงทุนด้านโทรคมนาคม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top