นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวภายหลังรับใบสมัครของ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังว่า นายเขตรัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกกับคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ และได้มายื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
นอกจากนี้ ยังมี ส.ส.อีกจำนวนมาก ที่จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ตอนนี้ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ในสภาไปก่อน โดยยืนยันว่าจะมีคนมาสมัครเกินกว่า 100 คน ทั้งกลุ่มส.ส. กลุ่มอดีตรัฐมนตรี กลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยนายเขตรัฐจะลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร และพรรคจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเขตกทม.ในเร็วๆนี้ และ ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะมีการ นัด ประชุม ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน แต่ในขณะนี้รอความชัดเจนในการแบ่งเขตจาก กกต.ก่อน ซึ่งพรรคจะเร่งทำงาน และแนะนำตัวผู้สมัครในพื้นที่ คาดว่าจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และ นโยบายของพรรคภายในเดือนก.พ.นี้ และ พล.อ.ประยุทธ์ จะเริ่มเดินสายพบปะประชาชนในสิ้นเดือนนี้ หลังจากได้เปิดตัวไปก็มีเสียงเรียกร้องจากสมาชิกและแฟนคลับจากต่างจังหวัดให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชนในทั่วทุกภาค
ส่วนนโยบายของพรรคการเมือง ในการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาท หรือค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 นั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคจะมีการประกาศนโยบายแน่นอน แต่จำเป็นต้องดูสถานะของประเทศ ซึ่งเศรษฐกิจกำลังฟื้น ภาคบริการดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของพล.อ.ประยุทธ์
“ที่ไปแข่งกัน ลดแลก แจกแถม ใช้เงินไปบิดเบือนกลไกตลาด มันไม่ยั่งยืน ผมเชื่อว่า จากผลงานรัฐบาลชุดนี้ การส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากการนำเทคโนโลยีมาใช้ หรือส่งเสริมธุรกิจบริการมูลค่าเพิ่ม เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในที่สุดจะทำให้เศรษฐกิจโต มีรายได้ ทำให้ตลาดจ้างงานโตขึ้น มีการพูดถึงเรื่องประกันค่าแรง 600 บาท ในความรู้สึกผม ถ้าทำได้ดีไม่ต้องไปประกัน อีกปีสองปีก็ทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นได้”นายเอกนัฐ กล่าว
สิ่งที่ต้องต่อยอดจากรัฐบาลชุดนี้ มี 2 ส่วน คือ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องสวัสดิการ ต้องมีการต่อยอดสร้างความเท่าเทียมในโอกาส สร้างสังคมเป็นธรรม ซึ่งพรรคจะมีการต่อยอดนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากตัวบุคคลไปถึงครอบครัว และมีการเพิ่มสิทธิต่างๆ แต่ทั้งหมดต้องศึกษาให้ละเอียดว่า ทุกนโยบายต้องปฏิบัติได้จริง
ในส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 ใน 3 คน ของพรรค นายเอกนัฐ กล่าวว่า กระบวนการคัดเลือกเป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งเต็งหนึ่งคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และไม่จำเป็นต้องมีแคนดิเดตเพียงคนเดียว
ด้านนายเขตรัฐ ยืนยันว่า การมาสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ ได้ติดตามการทำงานของนายเอกนัฏ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และเชื่อมั่นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นสถาบันการเมืองใหม่ และเป็นเสาหลักให้กับประเทศได้
ส่วนกระแสข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทาบทามนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยนั้น นายเขตรัฐ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับบิดา เพราะขณะนี้ นายเอนกอยู่ระหว่างปฎิบัติราชการที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้นคงต้องไปสอบถามจากนายเอนกเอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 66)
Tags: กกต., การเมือง, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พรรครวมไทยสร้างชาติ, ส.ส., เลือกตั้ง, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์