ผลสำรวจโดยบริษัทเวสต์แพคระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียพุ่งขึ้น 5% แตะระดับ 84.3 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 โดยได้รับแรงหนุนจากการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA)
อย่างไรก็ดี ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบต่อเศรษฐกิจนั้น มีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นบวก
นายบิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคกล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรตีความว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และการที่ RBA ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า RBA จะยุติวรจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ คณะกรรมการ RBA มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% สู่ระดับ 3.1% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2565 พร้อมกับกล่าวว่า RBA จะใช้ความยืดหยุ่นสำหรับการตัดสินใจในอนาคต หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อส่งสัญญาณชะลอตัวลงเล็กน้อย และราคาบ้านปรับตัวลง
ที่ผ่านมานั้น RBA ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วทั้งสิ้น 3% นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532 ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ผู้บริโภคมีต้นทุนการชำระหนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ข้อมูลระบุวา อัตราส่วนหนี้ภาคสินต่อรายได้ของภาคครัวเรือนออสเตรเลียจัดอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลกที่ระดับ 188.5%
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีการคาดการณ์สถานะด้านการเงินของภาคครัวเรือนออสเตรเลียในช่วง 12 เดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้น 6.6% และดัชนีการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 10.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 66)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ออสเตรเลีย, เศรษฐกิจออสเตรเลีย