นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงถึงการเปลี่ยนป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” เป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” มีการลงนามจ้างบริษัทเอกชนรายหนึ่ง โดยใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท นั้น โดยประเด็นที่ว่าราคากลางได้มาอย่างไร ดำเนินการอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่นั้น ได้แจงว่า การรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบของกรมบัญชีกลางถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยรายละเอียดของราคากลาง เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 4 และมีการคำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ตามที่คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการของกรมบัญชีกลาง
อีกทั้งยังปฏิบัติตามคู่มือแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและ การคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ โดยได้เปิดเผยราคากลาง ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร และราคากลางในงานจ้างก่อสร้าง (แบบ บก.01) ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 33,169,726.39 บาท
“โครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์การรถไฟแห่งประเทศไทย” ไม่ได้มีเพียงแค่การเปลี่ยนป้ายชื่อเท่านั้น แต่มีปริมาณงานที่หลากหลาย โดยรวมถึงการจัดทำระบบไฟฟ้าแสงสว่าง งานรื้อถอน การเปลี่ยนผนังกระจก โครงผนังกระจกอะลูมิเนียม ค่าการออกแบบด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และรูปแบบการติดตั้งที่มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนของเดิมที่มีความละเอียดอ่อน และต้องปรับปรุงอย่างระมัดระวัง การติดตั้งของใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว
ตลอดจนมีการกำหนดการรับประกันความชำรุดบกพร่องภายในขอบเขตงานอีก 365 วัน เพื่อให้โครงการเกิดความรอบคอบเสร็จสิ้นเรียบร้อยตามกำหนด
ทั้งนี้ ถ้าเปรียบเทียบราคาเฉพาะการผลิตและการติดตั้งตัวอักษรชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์การรถไฟฯ ซึ่งกำหนดเป็นราคากลางในปี 2565 จำนวนเงิน 19,642,043.52 บาท (ไม่รวมงานรื้อย้าย งานโครงสร้าง งานติดตั้งกระจก และงานอื่นๆ) ซึ่งมีจำนวนตัวอักษร และตราสัญลักษณ์รวม 112 ตัว คิดเป็นเงินเฉลี่ย 175,375.39 บาทต่อตัวอักษร หรือ 28,849.72 บาทต่อตารางเมตร
ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับราคากลางป้ายสถานีกลางบางซื่อ (เดิม) ซึ่งกำหนดราคากลางเมื่อปี 2553 รวมเงินเฟ้อจากปี 2554 – 2565 เป็นเงินจำนวน 12,201,995.32 บาท ซึ่งป้ายสถานีกลางบางซื่อ (เดิม) มีจำนวนตัวอักษรรวม 70 ตัว คิดเป็นเงินเฉลี่ย 174,314.22 บาทต่อตัวอักษร หรือ 32,249.70 บาทต่อตารางเมตร จะเห็นได้ว่า ราคาป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสัญลักษณ์การรถไฟฯ เป็นราคาที่เหมาะสม ไม่ได้แพงเกินจริงตามที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด
ดังนั้น การรถไฟฯ จึงขอยืนยันว่าการได้มาซึ่งราคากลาง เป็นไปตามระเบียบและถูกต้องตามขั้นตอนต่าง ๆ และนำมาซึ่งราคาที่เหมาะสมอย่างแท้จริง
ส่วนวิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เป็นวิธีการที่เหมาะสม ถูกต้อง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด เนื่องจาก
1.ขอบเขตของงานที่ต้องดำเนินการที่ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย งานติดตั้งตัวอักษรขนาดใหญ่ และมีจำนวนมาก พร้อมตราสัญลักษณ์การรถไฟฯ ความยาวรวมทั้ง 2 ฝั่ง 140 เมตร รวมน้ำหนักตัวอักษร 10,804 กิโลกรัม มีน้ำหนักของโครงเหล็กรับตัวอักษร 13,014 กิโลกรัม และงานต่าง ๆ ตามขอบเขตของงานที่กำหนด รวมถึงการยกป้ายชื่อสถานีใหม่ทั้งสองฝั่งขึ้นติดตั้งบนความสูง 28 เมตร จึงพิจารณาเห็นว่าเป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการต้องมีความเข้าใจในหลักวิศวกรรมโครงสร้างของสถานีเป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และไม่เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของสถานี และความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
2.พื้นที่ที่ติดตั้งป้าย และพื้นที่ทำงานปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ในพื้นที่เปิดให้บริการประชาชน และอยู่ระหว่างการรับประกันความชำรุดบกพร่องของกิจการร่วมค้า เอส ยู ประกอบด้วย บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งงานจ้างครั้งนี้ มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนวัสดุเดิมออกอีกทั้งต้องติดตั้งวัสดุใหม่ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งมีความเสี่ยงอาจกระทบต่อโครงสร้างของสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว และส่งผลต่อเงื่อนไขการรับประกันความชำรุดบกพร่องของอาคารสถานี
3. ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมเป็นภารกิจที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งเมื่อพิจารณาเหตุผลอื่นประกอบแล้ว การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยวิธีการเฉพาะเจาะจงในกรณีนี้ จึงเป็นการดำเนินการที่มีความเหมาะสม ถูกต้อง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการรถไฟฯ ประชาชน และประเทศเป็นสำคัญ
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าการจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงได้ใช้ดุลยพินิจภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน และมองในทุกมิติ คำนึงถึงประโยชน์สูงสุด ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยบมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 56 (2) (ค) ที่ให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดจ้างจากผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว อีกทั้ง บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ยังเป็นคู่สัญญา และเป็นบริษัทที่ดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ที่มีความเข้าใจในโครงสร้างของสถานีเป็นอย่างดี อันจะลดความเสี่ยง ทำให้เกิดความปลอดภัย และไม่เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของสถานี และความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ จึงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญกับทุกความคิดเห็นที่อาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในหลายประเด็น จึงได้ตอบชี้แจงในประเด็นข้อสงสัยไปแล้ว รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนมาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ได้มีการชี้แจงประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติมรวมกันอีกหลายครั้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในโครงการฯ อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พร้อมกับคำนึงถึงประโยชน์การใช้งาน ความคุ้มค่าของงบประมาณ และความถูกต้องตามหลักวิศวกรรมเป็นสำคัญ ในระหว่างที่ยังมีข้อสงสัยในประเด็นการดำเนินการเปลี่ยนป้าย และยังอยู่ในระหว่างการรอความเห็นจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯของกระทรวงคมนาคม เพื่อแสดงถึงจุดยืนและความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้สั่งการให้ผู้รับจ้างระงับงานรื้อย้าย จัดหา และติดตั้งงานก่อสร้างปรับปรุงเป็นการชั่วคราว เพื่อให้มีความชัดเจนทั้งในด้านความถูกต้องครบถ้วน และรอรับฟังความเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม อันแสดงให้เห็นถึงการยึดหลักความโปร่งใส ซื่อสัตย์ มีธรรมาภิบาล และการดำเนินการทุกประการอย่างรอบคอบ
“สิ่งที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการในทุกกระบวนการที่ผ่านมานั้น เป็นไปด้วยความรอบคอบ รัดกุม ผ่านกระบวนการตรวจสอบกลั่นกรอง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต โปร่งใส ตรงไปตรงมา ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และตามหลักธรรมาภิบาลทุกประการ จึงขอให้ความมั่นใจว่า โครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟ
แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ได้ดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของรัฐ และประชาชนเป็นสำคัญ อีกทั้งยังถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐทุกประการ พร้อมกับได้คำนึงถึงความสวยงาม ความปลอดภัย โปร่งใส เหมาะสมต่อการเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ดีที่สุดในประเทศและภูมิภาคต่อไป” นายนิรุฒ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 66)
Tags: นิรุฒ มณีพันธ์, สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์, สถานีกลางบางซื่อ