บัวหลวง ชี้เป้าลงทุนหุ้นเด่นตลาดสหรัฐ-ฮ่องกง-เวียดนามรับโอกาสฟื้น

นายรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ในปี 65 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฮ่องกง เวียดนาม หลังราคาปรับตัวลงมาจากหลากหลายปัจจัย เช่น สงครามรัสเซียยูเครน, ราคาพลังงานสูง, การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความกังวลเศรษฐกิจถดถอย เป็นต้น ส่งผลให้ดัชนี S&P 500, ดัชนีฮั่งเส็ง และดัชนี VN ปรับตัวลง 19% 15% และ 33% ตามลำดับ

ภาพรวมการลงทุนในปี 66 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฮ่องกง และเวียดนาม เชื่อว่า แนวโน้มจะดีขึ้น อย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้จะมีความเสี่ยงในการถูกปรับลงของคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/66 แต่ในช่วงไตรมาส 2/66 สถานการณ์จะดีขึ้นจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 66 เป็นต้นไป

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังมีมุมมองบวกต่อ “กลุ่ม Defensive” หุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโตสม่ำเสมอ เช่น CVS Health (CVS) และ UnitedHealth (UNH) ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำที่ราคาปรับลงมาก็น่าสนใจ โดยเปลี่ยนสถานะจาก “หุ้น Growth” เป็น “หุ้น Value” เช่น Alphabet (GOOG) และ Microsoft (MSFT)

สำหรับตลาดหุ้นฮ่องกงจะเริ่มดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของจีนและฮ่องกง ขณะที่เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวจากการเปิดพรมแดนระหว่างกันตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา สะท้อนผ่านคาดการณ์จาก Bloomberg Consensus ที่ระบุว่า ตัวเลข GDP ของจีนมีแนวโน้มเติบโตประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่คาดการณ์ตัวเลข GDP ฮ่องกงอาจกลับมาโต 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน เราจึงมีมุมมองบวกต่อหุ้นที่อิงการเปิดเมือง เช่น Yum China (9987), Anta Sports (2020) และ MTR (66) รวมถึงหุ้นเทคโนโลยี Alibaba (9988), Tencent (700) และ Meituan (3690)

ส่วนตลาดหุ้นเวียดนามจะได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางเวียดนามได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เช่น การอัดฉีดสภาพคล่อง และการขยายเพดานอัตราเติบโตสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ขณะที่คาดการณ์จาก Bloomberg Consensus ระบุว่า ตัวเลข GDP ปี 2566 อาจโต 6.2% ฉะนั้นแนะนำธีมลงทุนใน 2 กลุ่มหลัก คือ 1. หุ้นอิงการเปิดเมืองขานรับการท่องเที่ยว เช่น Vincom Retail (VRE) และ Sabeco (SAB) และ 2. หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและวัสดุ เช่น HCMC Infrastructure (CII) หลังรัฐบาลมีแผนเพิ่มการลงทุนด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top