นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์ขยายลงทุนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดอีโคซิสเต็มผนึกกำลังในกลุ่มอย่าง บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งหลังจากขยับเพิ่มสัดส่วนหุ้นใน บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) เตรียมปิดดีลเจรจาพันธมิตรอีกหลายรายด้วยงบลงทุนเบื้องต้นที่วางไว้ราว 300 ล้านบาท พร้อมลุ้นงานพิมพ์บัตรเลือกตั้งกติกาใหม่ 2 ใบหนุนมาร์จิ้น
“เรายังเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะเติบโตได้ตามแผน แม้ว่าจะมียอดขายบางส่วนลดลง แต่บางกลุ่มก็เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่ารายได้จะเติบโตได้ราว 10% เรายังเดินหน้าขยายการลงทุนใหม่ๆ ตามกลยุทธ์ Tech Ecosystem Builder ที่ผ่านมาได้สร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมาก ธุรกิจใหม่ยิ่งเข้ามาช่วยเสริม ดังนั้นน่าจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง ปัจจุบันก็รับรู้กำไรจากส่วน Non-printing ประมาณ 80%”นายจุติพันธุ์ กล่าว
ผ่านมา TKS ได้สร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมากแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของ TKS ที่หลายคนมีความกังวลก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เห็นการเติบโตจากธุรกิจเดิม แต่จริงๆ แล้วธุรกิจเดิมได้มีการวางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่ง และการมีธุรกิจใหม่ยิ่งเข้ามาช่วยเสริม ดังนั้นน่าจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง
ล่าสุด TKS ซื้อหุ้น AIT เพิ่ม 280 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.03% มูลค่า 2,100 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ใน AIT เพิ่มเป็น 22.48% และหากนับรวมการแปลงสิทธิ AIT-W2 จะมีสัดส่วนหุ้น AIT เป็นประมาณ 24% ซึ่งดีลนี้จะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงเดือน ก.พ.นี้ และคาดกระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จใน เดือน พ.ค.66
TKS ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งการลงทุนใน AIT จะช่วยสนับสนุนผลกำไรให้ปรับตัวดีขึ้นจากส่วนแบ่งกำไร AIT ที่จะเข้ามา ขณะเดียวกันยังสามารถขยายขอบเขตการลงทุนและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโต อย่างธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (System Integrator หรือ SI) ให้บริการในกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีลักษณะการขายเป็นแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เทิร์นคีย์ (Turn Key) ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนงาน การออกแบบระบบงาน การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของกลุ่มบริษัท และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท ในการเป็นส่วนหนึ่งของ Tech Ecosystem Builder ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน
ด้านธุรกิจการพิมพ์ ได้วางรากฐานอย่างแข็งแกร่งแล้ว ผลประกอบการยังรักษาระดับได้ และหากปีนี้มีการเลือกตั้งก็มีโอกาสได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้งด้วย ซึ่งครั้งนี้จะใช้บัตร 2 ใบยิ่งช่วยหนุนการเติบโตหากได้รับงานเข้ามา โดยในอดีตที่บริษัทเคยได้รับงานบัตรเลือกตั้งในรูปแบบ 1 บัตรลงคะแนน มีมารจิ้นประมาณ 40%
ด้าน SYNEX คาดว่าผลประกอบการปี 66 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยรายได้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% รับผลดีปรับกลยุทธ์การขายสินค้ากลุ่ม Commercial จากรูปแบบเดิมไปสู่แบบ Solution-Based ด้วยการนำเสนอ Solution ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจึงจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อเข้ามาเติมเต็มระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNEX กล่าวว่า หลังจาก TKS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SYNEX เข้าลงทุนเพิ่มใน AIT จะช่วยให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยสนับสนุนให้ให้สินค้ากลุ่ม Commercial เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีก New S-Curve ให้บริษัทในพอร์ตธุรกิจ B2B ซึ่งความร่วมมือของกลุ่มบริษัทจะช่วยให้บริษัทขยายบริการไปยังกลุ่มธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสาร (SI) ให้สมบูรณ์มากขึ้น เป็นโอกาสบุกตลาดใหม่ๆ ที่มีการเติบโต ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Digital Transformation
บริษัทมองว่าตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ยังเติบโตรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งการเรียนการสอน การทำงาน หรือธุรกรรมออนไลน์ อีกทั้ง กลุ่มสินค้าเกมมิ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปอีกไกล จากพฤติกรรมของเกมเมอร์ยุคใหม่ และความนิยมจากกีฬา E-Sport ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ สะท้อนซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจสินค้าเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เติบโตเป็นเมกะเทรนด์ขาขึ้น
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาการเข้าร่วมธุรกิจควบรวม-เข้าซื้อกิจการ (M&A) ในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะด้านบริการ (Service) โดยคาดหวังจะสรุป 1 ดีลในปีนี้ จากปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงเจรจา ซึ่งมีเข้ามาประมาณ 3-4 ราย โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณดีลละ 100 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 66)
Tags: SYNEX, TKS, จุติพันธุ์ มงคลสุธี, ซินเน็ค, ที.เค.เอส. เทคโนโลยี, สุธิดา มงคลสุธี, หุ้นไทย