บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF) เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.93 บาท พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือนม.ค.66 นี้
SAF คือใคร ?
SAF ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษแก่ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง อาหาร และอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งลูกค้าประเภท End-User และลูกค้าประเภท Supplier
SAF จำแนกรายได้เป็น 4 ช่องทาง ได้แก่ 1) เหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับลูกค้านำไปผลิตแม่พิมพ์งานอุตสาหกรรม 2) เหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับลูกค้านำไปใช้ในการผลิตและ/หรือเกี่ยวเนื่องกับเครื่องจักรกลวิศวกรรม 3) บริการชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศ และ 4) รายได้จากการขายอื่น ๆ
นายพิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAF เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ถ้าพิจารณาจากกลุ่มลูกค้าของ SAF ที่อยู่ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ก็เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ในประเทศไทยและมีโอกาสเติบโตจากเรื่อง EV ได้อีกในอนาคต ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็มีการขยายตัวมากขึ้น มีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเข้ามา และลูกค้ากลุ่มอาหารในประเทศไทย ก็นับว่ามีศักยภาพในการเติบโตเช่นกัน จึงมองว่าธุรกิจของเราจะสามารถเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าได้
SAF มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าเกรดพิเศษของประเทศไทย และมี Supplier ระดับโลกจากเยอรมันที่คอยสนับสนุน อาทิ DÖRRENBERG และ WILHELM จึงทำให้บริษัทมีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นในตลาด
และอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญคือการมีบริการชุบแข็งเหล็กด้วยระบบสุญญากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ครบวงจรตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้พึงพอใจสูงสุด
“ในตลาดของเหล็กกล้าเกรดพิเศษ มีการแข่งขันไม่สูงมาก เนื่องจากลูกค้าจะพิจารณาถึงคุณภาพก่อนราคา ดังนั้นเมื่อเรามีจุดเด่นในแง่ของสินค้าที่มีคุณภาพ การแข่งขันในเชิงราคาก็จะไม่ได้สูงมาก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
- ลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ รวมถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 80 ล้านบาท
- ลงทุนเตาชุบแบบไนไตรดิ้ง จำนวน 10 ล้านบาท
- เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 52.34 ล้านบาท
บริษัทมีคลังสินค้าอยู่ 2 แห่ง สามารถเก็บสินค้าได้ 2 พันตัน หลังเข้าตลาดหุ้นจะขยายคลังสินค้าเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อเก็บสินค้าเพิ่มได้อีก 2 พันตัน ดังนั้น ความจุจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 4 พันตัน และเงินอีกส่วนหนึ่งที่ลงทุนเตาชุบแบบไนไตรดิ้ง เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดจากการอบชุบสุญญากาศให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนธุรกิจระยะยาว บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตในระดับ 20% ต่อปี รวมทั้งมีแผนขยายตลาด CLMV ซึ่งทาง Supplier ก็พร้อมสนับสนุนให้เราเป็นจุดกระจายสินค้าในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้
“ในแง่ของภูมิศาสตร์ จากที่ประเทศไทยอยู่ในจุดกึ่งกลางของภูมิภาค ซึ่งทาง Supplier ก็ยินดีจะให้เราเป็น Hub ในการกระจายสินค้า รวมทั้งในเรื่องของการให้บริการในภูมิภาคนี้อีกด้วย” นายพิศิษฐ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 66)
Tags: IPOInsight, SAF, พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช, หุ้นไทย, เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล