นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (Pi) เปิดเผยว่า ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,690 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังให้เน้นเป็นเพียงแค่ Trading ยังมองตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควรทั้งผ่อนคลายดอกเบี้ย ผ่อนคลายเงินเฟ้อ และการเปิดประเทศของจีน
ทั้งนี้สัปดาห์นี้ตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการจะเปิดเผยในช่วง 20.30 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.5% จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.1% จากปีก่อน หากต่ำกว่าตลาดคาดการณ์มองเป็นบวกเล็กน้อยกับสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงค่าเงินบาทให้ยังคงทิศทางแข็งค่าต่อไป ถัดมาตลาดจะไปให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันอังคารซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมวิชาการตลาดน่าจะจับตารอดูความเห็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากยังส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอตัวลง ก็ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ (เชื่อว่าจะออกมาแบบนั้น)
อย่างไรก็ตามช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอยและปรับลดประมาณการกำไรบริษัทฯ ส่วนหุ้นแนะนำเน้นที่ยังปรับขึ้นน้อยแต่มีปัจจัยบวก อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ค้าปลีก (BJC HMPRO) สื่อสาร (ADVANC INTICH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC RATCH) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) GPSC (ถือ / ราคาเป้าหมาย 69.00 บาท) คาดว่าอัตรากำไรจะฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังปี 66 ถึงปี 67 จากคาดการณ์ว่าความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซียจะคลี่คลายลงและราคาก๊าซกลับสู่ระดับปกติ
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท) SCB X ตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้เฉลี่ยที่ 10% ในปี 65-68 ด้วยส่วนแบ่งธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม ด้วยเป้าหมายในการเร่งอัตราการเติบโตของกำไรที่เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ บริษัทจะเน้นธุรกิจ Gen 2 และ Gen 3 มากขึ้น โดยมีแผนการทำ IPO ธุรกิจ CARD X (ROE มากกว่า 20%) และ Innovest X (ROE 25%) ในปี 68 และ AUTO (ROE มากกว่า 25%) ในปี 70
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, วทัญ จิตต์สมนึก, หุ้นไทย