พอใจ! อุบัติเหตุ 7 วันอันตรายปีใหม่ เจ็บ-ตายลดลงตามเป้าหมาย

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและลดทางถนน เปิดเผยถึงผลการดำเนินการของศูนย์ฯ ในแต่ละด้าน เพื่อลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 65 เป็นต้นมา จนถึงวันสุดท้ายคือ 5 ม.ค. 66 มีดังนี้

1. การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร

จัดกำลังตำรวจกว่า 50,000 นาย ดูแลการจราจรตลอด 7 วัน มีปริมาณรถ เข้า-ออกจาก กทม. รวมจำนวน 7,199,251 คัน ออกจาก กทม. จำนวน 3,428,939 คัน และเข้า กทม. จำนวน 3,770,312 คัน วันที่ประชาชนเดินทางออกจาก กทม. มากที่สุด คือวันที่ 29 ธ.ค. 65 วันที่ประชาชนเดินทางเข้า กทม. มากที่สุด คือวันที่ 3 ม.ค. 66 มีการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) จำนวนทั้งสิ้น 117 ครั้ง (ระบายรถขาออก 51 ครั้ง/ ขาเข้า 66 ครั้ง)

ทั้งนี้ มีรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ที่ขออนุญาตเดินรถในช่วงเวลาห้าม ผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 23,587 คัน อนุญาตให้เดินรถได้ 23,007 คัน (รถที่ได้รับอนุญาตมากที่สุด คือ รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส (47.43%) รองลงมา คือ รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค (44.80%) ไม่อนุญาตจำนวน 580 คัน และพบผู้ฝ่าฝืนเดินรถในเวลาห้าม จำนวน 228 ราย เนื่องจากเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัด

2. การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก

มีการตั้งจุดตรวจทุกวันเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนทั่วประเทศ มีจำนวนจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 2,142 จุดตรวจ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,629 จุดตรวจ พบผู้ที่ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 518,367 ราย เป็น ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา 22,439 ราย (มากกว่าค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง คิดเป็น 21.31%) ขับรถเร็วเกินกำหนด 199,640 ราย/ไม่สวมหมวกนิรภัย 102,864 ราย/ ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 28,747 ราย

โดย 10 ข้อหาหลักนี้ จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดำเนินคดีเมาแล้วขับ เป็นการนำผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งมีโอกาสก่ออุบัติเหตุออกจากท้องถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุได้จำนวน 22,439 คน

3. การป้องกันและลดอุบัติเหตุ รัฐบาลกำหนดค่าเป้าหมายให้จำนวนครั้ง การเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (admit) ต้องลดลงไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (63-65) ซึ่งจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุลดลงตามเป้าในทุกด้าน ดังนี้

– การเกิดอุบัติเหตุ 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 เกิดจำนวน 2,440 ครั้ง ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (3,153 ครั้ง) เป็นจำนวน -713 ครั้ง (ลดลง 22.61%)

– จำนวนผู้เสียชีวิต 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 317 ราย ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (366 ราย) เป็นจำนวน -49 ราย (ลดลง 13.39 %)

– จำนวนผู้บาดเจ็บ 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 2,437 คน ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (3,165 คน) เป็นจำนวน -728 คน (ลดลง 23.00%)

สรุปทั้ง 3 สถิติถือว่าลดลงมากกว่า 5% สำเร็จตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

ทั้งนี้ บช. ที่ลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนได้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 3 ,4 และภาค 2 ส่วน บช. ที่ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 9 ตามด้วย 3 ส่วนลำดับที่สามเท่ากัน คือ บช.น. และภาค 6 สำหรับจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ สุโขทัย พังงา สตูล และนราธิวาส

4. สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด (37.50%) ดื่มแล้วขับ (25.49%) และตัดหน้ากระชั้นชิด (18.69%)

ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ รถจักรยานยนต์ (82.11%) รถกระบะ (5.56%) และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (3.24%)

สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมากที่สุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย (59.19 %) และดื่มแล้วขับ (20.41%)

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการสรุปข้อมูลและถอดบทเรียน ปัญหาการปฏิบัติโดยเฉพาะวิเคราะห์สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ทุกมิติ เพื่อนำมาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุ และอำนวยการจราจรในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2566 ต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top