ข้อมูลจากแชลเลนเจอร์, เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเดินหน้าปลดพนักงานในระดับใกล้เคียงกับช่วงแรก ๆ ที่โควิด-19 ระบาด โดยในเดือนพ.ย. 2565 อุตสาหกรรมดังกล่าวประกาศปลดพนักงาน 52,771 ตำแหน่ง ส่งผลให้จำนวนพนักงานที่ถูกปลดทั้งหมดในปี 2565 อยู่ที่ 80,978 ตำแหน่ง ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2543
หลังประสบปัญหาในช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดในปี 2563 บรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่างได้ประโยชน์จากการที่ผู้บริโภคแห่จับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซและกระแสการทำงานจากที่บ้านที่เฟื่องฟูจนนำไปสู่การเร่งจ้างงาน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว โดยผลประกอบการล่าสุดของบริษัทต่าง ๆ เช่น อัลฟาเบท, แอมะซอนดอทคอม, เมตา แพลตฟอร์มส์ และไมโครซอฟท์ ต่างก็ต่ำกว่าคาดการณ์ และฉุดราคาหุ้นดิ่งลง
สภาพการณ์ที่เริ่มย่ำแย่ลง ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ปลดพนักงานและระงับการจ้างงานเพิ่ม เพื่อประหยัดต้นทุน
– แอมะซอน (Amazon) นายแอนดี แจสซี ซีอีโอของแอมะซอนซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ยืนยันว่า แอมะซอนจะปรับลดพนักงานมากกว่า 18,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ทางบริษัทวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ที่ 10,000 คน
– แอปเปิ้ล อิงค์ (Apple Inc) บริษัทผลิต iPhone ของสหรัฐระงับการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ยกเว้นพนักงานในแผนกวิจัยและการพัฒนา
– อะโดบี อิงค์ (Adobe Inc) ปลดพนักงานประมาณ 100 ตำแหน่ง โดยมุ่งเน้นไปยังฝั่งพนักงานขาย
-ไชม์ ไฟแนนเชียล อิงค์ (Chime Financial Inc) บริษัทสตาร์ตอัปธนาคารดิจิทัล ปลดพนักงาน 12% หรือ 160 ตำแหน่ง
– ซิสโก้ ซิสเต็มส์ (Cisco Systems) บริษัทไอดีและระบบเครือข่ายเริ่มดำเนินแผนปรับโครงสร้างที่จะส่งผลกระทบพนักงานประมาณ 5%
– คอยน์เบส โกลบอล อิงค์ (Coinbase Global Inc) เริ่มปลดพนักงาน 60 ตำแหน่ง หลังตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทรุดตัว หลังประกาศในเดือนมิ.ย.ว่าจะปลดพนักงาน 18% หรือประมาณ 1,200 ตำแหน่ง
– แดปเปอร์ แล็บส์ อิงค์ (Dapper Labs Inc) ประกาศปลดพนักงาน 22% จากปัญหาด้านเศรษฐกิจมหภาคและความท้าทายด้านการดำเนินงานจากการที่บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
– ดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป (Digital Currency Group) เริ่มปรับโครงสร้างในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพนักงานถูกปลด 10 ตำแหน่ง
– ดอร์แดช (DoorDash Inc) ปลดพนักงานประมาณ 1,250 ตำแหน่ง หรือประมาณ 16% เนื่องจากการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในช่วงโรคระบาดนำไปสู่ภาวะขาดทุนเพิ่มมากขึ้น
– กาแล็กซี่ ดิจิทัล (Galaxy Digital) กำลังพิจารณาปลดพนักงานถึง 20%
– เอชพี อิงค์ (HP Inc) เตรียมปลดพนักงานถึง 6,000 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า
– อินเทล คอร์ป (Intel Corp) กำลังดำเนินการปลดพนักงานและชะลอการใช้จ่ายในโรงงานใหม่ ๆ เพื่อประหยัดต้นทุน 3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้และตั้งเป้าลดต้นทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 สำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดพนักงานจะตกงานหลายพันตำแหน่ง
– คราเคน (Kraken) บริษัทซื้อขายคริปโทฯกำลังดำเนินการปลดพนักงาน 30%
– ลิฟต์ อิงค์ (Lyft Inc) ปลดพนักงาน 13% หรือประมาณ 683 ตำแหน่ง
– เมตา (Meata) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กกำลังดำเนินการปลดพนักงาน 11,000 ตำแหน่ง ตามแผนการปลดพนักงานครั้งใหญ่รอบแรกในประวัติศาสตร์ขององค์กร
– โอเพ่นดอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ (Opendoor Technologies Inc) ประกาศว่าจะปลดพนักงาน 500 ตำแหน่ง หรือประมาณ 18%
– เพโลตัน อินเทอร์แอคทีฟ อิงค์ (Peloton Interactive Inc) ปลดพนักงานทั่วโลก 500 ตำแหน่งหรือประมาณ 12%
– เพลด อิงค์ (Plaid Inc) ปลดพนักงาน 260 ตำแหน่ง เพื่อลดต้นทุนธุรกิจ
– ควอลคอมม์ อิงค์ (Qualcomm Inc) ประกาศระงับการจ้างงาน เพื่อรับมือกับภาวะอุปสงค์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ชิปของทางบริษัท ชะลอตัวลงกว่าที่คาดการณ์
– เซลส์ฟอร์ซ อิงค์ (Salesforce Inc) เตรียมปลดพนักงานประมาณ 10% และลดการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โดยยอมรับว่าจ้างพนักงานมากเกินไปในช่วงที่ธุรกิจเฟื่องฟูช่วงโรคระบาด
– ซีเกต เทคโนโลยี โฮลดิงส์ พีแอลซี (Seagate Technology Holdings Plc) ผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดประกาศปลดพนักงานประมาณ 3,000 ตำแหน่ง
– สไตรป์ อิงค์ (Stripe Inc) บริษัทสตาร์ตอัปการชำระเงินที่มีมูลค่าสูงสุดแห่งหนึ่งของโลกกำลังดำเนินการปลดพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง หรือประมาณ 14%
– ทวิตเตอร์ (Twitter) ได้ปลดพนักงานประมาณ 3,700 ตำแหน่ง หลังจากนายอีลอน มัสก์ เข้าครอบครองกิจการ
– อัปสตาร์ต โฮลดิงส์ อิงค์ (Upstart Holdings Inc) แพลตฟอร์มปล่อยเงินกู้ผ่านทางออนไลน์ เปิดเผยว่าได้ปลดพนักงาน 140 ตำแหน่ง จากปัญหาเศรษฐกิจที่ท้าทายและปริมาณการปล่อยสินเชื่อที่ลดน้อยลงของบริษัท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 66)
Tags: ปลดพนักงาน, ระงับจ้างงาน, อุตสาหกรรมเทคโนโลยี