เนทิซิส เอสเอ (Natixis SA) บริษัทด้านวาณิชธนกิจของฝรั่งเศสบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงสูญเสียศักยภาพในการเติบโตไปประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด
เนทิซิสได้ทำการคำนวณความเสียหายดังกล่าวบนสมมติฐานที่ว่าเศรษฐกิจของฮ่องกงจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 2.8% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในกรณีที่ไม่มีโรคโควิด-19 และความเสียหายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของปี 2561
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฮ่องกงเป็นหนึ่งในชาติที่แยกตัวโดดเดี่ยวมากที่สุดในโลก เนื่องจากรัฐบาลปิดพรมแดนเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้จะเปิดพรมแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 เกือบทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงการห้ามเดินทางทางอากาศและการกักตัวในโรงแรมที่บังคับใช้มาตลอดปี 2565 นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงมีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2566
นายแกรี่ อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนทิซิสให้ความเห็นว่า ตอนนี้จีนแผ่นดินใหญ่ได้ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แล้วและการเปิดประเทศใหม่จะเป็นแรงผลักดันการเติบโตของฮ่องกงด้วยกิจกรรมข้ามพรมแดนที่จะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
นายอึ้งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงอาจเติบโตราว 4% ในปีนี้ แม้ว่าการที่ประเทศต่าง ๆ ตั้งข้อกำหนดการเดินทางเข้าเมืองกับผู้เดินทางจากจีนนั้น อาจทำให้การกลับสู่ภาวะปกติล่าช้าก็ตาม
ผลสำรวจของบลูมเบิร์กคาดว่า GDP ของฮ่องกงอาจหดตัว 3% ในปี 2565 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอุปสงค์ที่ลดลงทั่วโลกก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจฮ่องกงด้วยเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 66)
Tags: มาตรการคุมโควิด, ฮ่องกง, เศรษฐกิจฮ่องกง