เจแอลซีและหลงเจิง บริษัทที่ปรึกษาซึ่งติดตามนโยบายกำหนดโควตาเชื้อเพลิงของจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมาระบุเมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) ว่า จีนได้เพิ่มโควตาการส่งออกสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นในงวดแรกของปีนี้เกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นความพยายามในการกระตุ้นการกลั่นและมุ่งชิงส่วนแบ่งตลาดส่งออกที่มีความแข็งแกร่ง ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ที่ชะลอตัวในประเทศ
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนปล่อยโควตา 18.99 ล้านตัน เพื่อให้ครอบคลุมการส่งออกน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงเครื่องบินส่วนใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับ 13 ล้านตันจากโควตาของปีก่อนหน้า
เจแอลซีและหลงเจิงระบุว่า ไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ป (ซิโนเปค), ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป, ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออย คอมปะนี และซิโนเคม กรุ๊ป ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน ตลอดจนบริษัทเจ้อเจียง ปิโตรเคมิคอล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของจีน ได้รับอนุญาตให้ส่งออกเชื้อเพลิงทั้งหมด 18.73 ล้านตัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังเร่งพยุงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวด้วยการส่งเสริมให้บริษัทกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงยกระดับการดำเนินงาน เพื่อโกยกำไรจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า การเพิ่มโควตาส่งออกน้ำมันครั้งล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า การบริโภคเชื้อเพลิงภายในประเทศกำลังซบเซา เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น หลังการประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคระบาดได้บั่นทอนการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 66)
Tags: การส่งออก, จีน, น้ำมัน, อุปสงค์, เชื้อเพลิง, เศรษฐกิจจีน, โควตาการส่งออก, โควตาเชื้อเพลิง