ผู้บัญชาการตำรวจประจำรัฐสภาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (2 ม.ค.) ก่อนครบรอบ 2 ปีเหตุการณ์บุกโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 และก่อนการยุบคณะกรรมการสภาคองเกรสที่สอบสวนคดีดังกล่าวว่า ตำรวจรัฐสภาสหรัฐเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีรัฐสภาในอนาคต
“ด้วยบรรยากาศการคุกคามในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่มาจากการเลือกตั้ง จำเป็นจะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องและรัดกุมยิ่งขึ้น” ทอม แมนเจอร์ ผู้บัญชาการตำรวจประจำรัฐสภา (USCP) ระบุในแถลงการณ์ “จากสถานการณ์ที่แบ่งแยกเป็น 2 ขั้วในประเทศเช่นนี้ การโจมตีในรูปแบบเดียวกับที่ตำรวจต้องเผชิญเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 นั้น อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหากมีเรื่องไม่คาดคิดเช่นนั้นเกิดขึ้น ทางตำรวจก็จะพร้อมที่จะรับมือ”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์นี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในขณะนั้นได้บุกเข้าก่อเหตุรุนแรงที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 140 นาย โดยเหตุเกิดในขณะที่วุฒิสภาและรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ กำลังจะประกาศความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของนายทรัมป์ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
คณะกรรมาธิการจากสภาผู้แทนราษฎรที่สอบสวนเรื่องดังกล่าวระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า นายทรัมป์ควรถูกตั้งข้อหาในคดีอาญาจากการจุดชนวนให้มีเหตุจลาจลร้ายแรงเกิดขึ้น
จนถึงขณะนี้ มีผู้ถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนร่วมในเหตุจลาจลราว 900 คน โดยในจำนวนนี้รวมถึงผู้ที่สารภาพว่ามีความผิดประมาณ 470 คน โดยอ้างอิงจากรายงานของกองบัญชาการตำรวจรัฐสภาที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทางกองฯ กำลังดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้โดยตรง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66)
Tags: พรรคเดโมแครต, รัฐสภาสหรัฐ, สภาคองเกรส, สหรัฐ, โจ ไบเดน, โดนัลด์ ทรัมป์