MEGA เด้ง 3.21% คาดหวังนักท่องเที่ยวจีนเข้ามากว้านซื้อยาโควิด-วิตามิน

MEGA เด้งขึ้น 3.21% หรือเพิ่มขึ้น 1.50 บาท มาที่ 48.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 41.27 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น. จากราคาเปิด 48.00 บาท ราคาสูงสุด 48.25 บาท ราคาต่ำสุด 47.75 บาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมิน บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซเอ็นซ์ (MEGA) จากประเด็นข่าวที่ MEGA กำลังติดตามสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ประเมินจะมียอดการเข้ามาซื้อยาเกี่ยวกับโควิด เช่น ยาแก้ปวดแก้ไข้ หรือยาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่าที่เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปกว้านซื้อยาพาราเซตามอลค่อนข้างมาก จึงประเมินว่าเมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยก็น่าจะมีการซื้อยากลับไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น บริษัทจะได้ประโยชน์จากการหิ้วกลับด้วยเท่านั้น โดย MEGA ยังไม่มีการส่งออกไปขายในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก่อนโควิดมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาซื้อยาที่ผลิตในไทยค่อนข้างมาก เช่น ยาดม สมุนไพร วิตามิน อาหารเสริม มองว่ามีโอกาสที่จะเข้ามาซื้อขา อาทิ พวกพาราเซตามอล หรือฟ้าทะลายโจร ซึ่งการซื้อใช้กัน สำหรับแนวโน้มในด้านยอดขายยา อาหารเสริม วิตามินนั้นคงเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคยังต้องดูแลตัวเอง เพราะโควิดยังไม่หาย ซึ่งบริษัทรอดูสถานการณ์หลังปีใหม่ เชื่อว่าโควิดจะกลับมา และยังมีการซื้อยารับประทาน

บล.ดาโอ มีมุมมองเป็นบวกจากประเด็นข้างต้น โดยเราได้เห็นข่าวจากสื่อต่างประเทศ ปัจจุบัน Chinese expats ในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ และคนจีนที่ไป business trip ในต่างประเทศ ได้มีการซื้อยากลับจีนเป็นล็อตใหญ่ๆ เนื่องจากมีความกังวลว่าในจีนจะประสบปัญหายาแก้ไข้และยาเกี่ยวกับโควิดขาดตลาด ยาที่นิยมซื้อ อาทิ paracetamol, ibuprofen โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่คนจีนไปกว้านซื้อจนหมดสต๊อกในร้านขายยาบางร้าน และอาจจะมีการปรับขึ้นราคาและจำกัดการซื้อต่อคน เพื่อสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น

สำหรับประเด็นข้างต้น เรามองว่าจะส่งผลบวกต่อ MEGA โดยผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโควิดที่เราคาดว่าจะขายดี ได้แก่ Gofen 400 (ibuprofen), ViruNo 30 (สารสกัดฟ้าทะลายโจร), Eugica Coff (ลูกอมสมุนไพรแก้เจ็บคอ), Muclear (ยาละลายเสมหะ) และวิตามินกลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน อาทิ Nat C, Nat D, Nat B

นอกจากนี้ เรามองว่าหลังปีใหม่มีโอกาสที่โควิดในไทยจะกลับมาระบาดแต่ไม่รุนแรงมาก คาดผู้บริโภคจะซื้อยาทานเอง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อยอดขายยาและวิตามินของ MEGA ดังนั้น สำหรับปี 66 คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 2,729 ล้านบาท (+13% YoY) จาก 1) รายได้รวมขยายตัว +10% YoY จากรายได้ Mega We Care +9% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และ demand ของ nutraceutical products ที่ยังเติบโตดีแม้โควิดคลี่คลาย และ Maxxcare +12%, 2) GPM ลดลงเล็กน้อย จากค่าเงินบาทแข็งค่าและสัดส่วน Maxxcare ปรับตัวเพิ่มขึ้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายที่ 65.00 บาท อิง 2023E PER 21.0x (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top