ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยไฉซิน/มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงรุนแรงมากขึ้นในเดือนธ.ค. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทำให้การผลิตสะดุดลง และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ หลังจากที่จีนยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 49.0 จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 5 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี PMI เดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 48.8
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มผู้ผลิตของจีนได้เผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นในวันข้างหน้า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างมากหลังจากรัฐบาลจีนยุติมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างฉับพลันในช่วงต้นเดือนธ.ค.
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันเสาร์ (31 ธ.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.อยู่ที่ 47.0 ลดลงจากระดับ 48.0 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48.0
ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการผลิต หลังจากรัฐบาลจีนสั่งยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดอย่างฉับพลัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66)
Tags: จีน, ภาคการผลิต