เงินบาทเปิดซื้อขายวันแรกปีกระต่าย 34.43 แข็งค่าตามภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 34.30-34.65

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.43 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดวันสุดท้ายของปีก่อนที่ระดับ 34.51 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ซึ่งคาดว่าตลาดมองทิศทางการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจจีนในอนาคตหากสามารถผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

“เปิดตลาดวันแรกของปีเงินบาทแข็งค่าจากปิดตลาดส่งท้ายปีเก่า ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับภูมิภาค” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.30 – 34.65 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (30 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.25742% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.64768%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ 130.18 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 131.83 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ 1.0652 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0673 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.545 บาท/ดอลลาร์

– ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (2-6 ม.ค.66) ที่ระดับ 34.00-34.80 บาท/ ดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.65 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ โควิดในจีน และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย

– ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยาก ลำบากมากขึ้น โดยเศรษฐกิจโลกราว 1 ใน 3 จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

– กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2565 ขยายตัว 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะชะลอตัวลงใน ปี 2566

– China Beige Book International (CBBI) เปิดเผยรายงาน China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะ เศรษฐกิจจีนบ่งชี้ว่า ภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนต่างก็ชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากผล กระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจจีนหดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565

– ตลาดเงินและตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ (2 ม.ค.) เนื่องในวันปีใหม่

– ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาค เอกชน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุม ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

– กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ (6 ม.ค.) ซึ่งคาดว่าจะบ่ง ชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวตลอดปี 2565 แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกมากที่สุดในรอบหลายสิบปีก็ตาม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top