ทรี เอซิส แอดไวเซอร์ส (3 Axis Advisors) บริษัทวิจัยด้านเฮลท์แคร์เปิดเผยข้อมูลวิเคราะห์บ่งชี้ว่า บรรดาบริษัทเวชภัณฑ์ซึ่งได้แก่ ไฟเซอร์, แกล็กโซสมิทไคล์น (GSK), บริสตอล ไมเยอร์ส สควิบบ์, แอสตร้าเซนเนก้า และซาโนฟี่ วางแผนที่จะปรับขึ้นราคายามากกว่า 350 รายการในสหรัฐในช่วงต้นเดือนม.ค. 2566
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับขึ้นราคายานั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมยาเตรียมพร้อมรับมือกับกฎหมายลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act – IRA) ของรัฐบาลปธน.โจ ไบเดน ซึ่งจะอนุญาตให้โครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล (Medicare health program) สามารถต่อรองราคาได้โดยตรงสำหรับยาบางชนิดซึ่งจะเริ่มขึ้นในปี 2569 นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยายังต้องรับมือกับปัญหาด้านเงินเฟ้อและห่วงโซ่อุปทานซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ข้อมูลที่เผยแพร่โดย 46brooklyn ระบุว่า ในปี 2565 บริษัทเวชภัณฑ์ได้ปรับเพิ่มราคายามากกว่า 1,400 รายการ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 โดยราคากลางของยาต่าง ๆ ถูกปรับขึ้น 4.9% ในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 6.4% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ
ไฟเซอร์ประกาศปรับขึ้นราคายามากที่สุดจนถึงขณะนี้ โดยปรับขึ้นราคายา 89 แบรนด์ และยังปรับเพิ่มราคายาอีก 10 แบรนด์ของบริษัทฮอสพิราซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
ส่วน GSK ปรับขึ้นราคายามากที่สุดรองจากไฟเซอร์ โดยปรับขึ้นราคายาแล้ว 26 ชนิด ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นราคาวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด (Shingrix) ซึ่งเป็นวัคซีนยอดนิยมอีกเกือบ 7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ธ.ค. 65)
Tags: ราคายา, สหรัฐ