การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยกล่าวอ้างว่าในการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ ทำให้รัฐประหยัดเงินสนับสนุนกว่าโครงการละ 1 แสนล้านบาท แต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ รัฐอาจต้องเสียเงินค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทนั้นว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลซึ่งได้มาจากการใช้ดุลยพินิจที่บิดเบือน ไม่เป็นกลาง และไม่พิจารณาข้อชี้แจงใดๆ ของ รฟม. สร้างความเสียหายต่อ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เรื่อยมา
ทั้งนี้ รฟม. ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
ในการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง นั้น คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ได้อนุมัติดำเนินงานทั้ง 2 โครงการ โดยกำหนดกรอบวงเงินสนับสนุนค่างานโยธา เป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ ไม่เกิน 20,135 ล้านบาท และสายสีเหลืองฯ ไม่เกิน 22,354 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะการคัดเลือกได้ยื่นข้อเสนอ โดยขอเงินสนับสนุนสุทธิสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ 19,823 ล้านบาท และสายสีเหลืองฯ 22,087 ล้านบาท
สำหรับการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ได้อนุมัติการดำเนินงานโครงการ โดยกำหนดกรอบวงเงินสนับสนุนค่างานโยธาไม่เกิน 91,983 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะการคัดเลือกได้ยื่นข้อเสนอโดยขอเงินสนับสนุนสุทธิ 85,432 ล้านบาท
การเทียบข้อเสนอของเอกชนผู้ร่วมประมูล โดยนำมาหักลบกันตรงๆ ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นผลการประหยัดเงินของรัฐตามที่นักวิจารณ์ดังกล่าวกล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะในการประมูลโครงการภาครัฐนั้น มีกรอบวงเงิน มติคณะรัฐมนตรี และกฎเกณฑ์ในการดำเนินการที่กำหนดไว้ การวิเคราะห์ของนักวิจารณ์ดังกล่าว เป็นเพียงการนำตัวเลขมาเปรียบเทียบในลักษณะจับแพะชนแกะเท่านั้น และยังพยายามหยิบยกตัวเลขข้อเสนอที่มิได้ผ่านการตรวจสอบและพิจารณาตามเกณฑ์การประเมิน มากดดันภาครัฐ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าตามระเบียบขั้นตอนของการประมูลภาครัฐนั้น จะไม่สามารถนำข้อมูลของผู้อื่นที่ไม่ได้ร่วมประมูลมาเปรียบเทียบได้ ซึ่งหากพิจารณาผลต่างระหว่างข้อเสนอของเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก และกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จะมีผลสรุปได้ ดังนี้
กรอบวงเงินสนับสนุนตามมติ ครม.
– สายสีชมพู 20,135 ล้านบาท
– สายสีเหลือง 22,354 ล้านบาท
– สายสีส้ม 91,983 ล้านบาท
ข้อเสนอการขอรับการสนับสนุนสุทธิของเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก
– สายสีชมพูฯ 19,823 ล้านบาท
– สายสีเหลืองฯ 22,087 ล้านบาท
– สายสีส้มฯ 85,432 ล้านบาท
รัฐประหยัดเงินสนับสนุน
– สายสีชมพูฯ 312 ล้านบาท
– สายสีเหลืองฯ 267 ล้านบาท
– สายสีส้มฯ 6,551 ล้านบาท
รฟม. ขอยืนยันว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดอย่างครบถ้วน ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้พิจารณาข้อเสนอแล้วเสร็จ และสำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ โดย รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดใน พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 65)
Tags: รถไฟฟ้าสายสีชมพู, รถไฟฟ้าสายสีส้ม, รฟม.