นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ต้องต่อยอดกับสิ่งที่ทำสำเร็จแล้ว โดยในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ประชาชนหยุดกิจกรรมต่างๆ แต่พรรคยังเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับระบบสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมให้ดีขึ้น เพราะเมื่อโควิด-19 ผ่านพ้นไป ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิต ดังนั้นระบบของเราจะต้องพร้อมที่สุด อีกทั้งถ้ามองว่าโควิด 19 ทำให้ต้องหยุดทุกอย่างตามไปด้วย ก็เท่ากับปิดโอกาสที่จะอัดฉีดเงินหมุนเวียนเข้าไปในวงจรเศรษฐกิจ
ดังนั้น เมื่อโควิด-19 คลี่คลาย ไทยจะกลายเป็นประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุดประเทศหนึ่ง นอกจากนั้น การที่ควบคุมดูแลสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี ดูแลทั้งคนไทย และต่างชาติได้ดี จึงเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนเลือกไทยเป็นที่ตั้งฐานการผลิต เพราะมีความมั่นใจในระบบสุขภาพ อีกทั้งยังเห็นแล้วว่าระบบสาธารณูปโภคของไทยมีความก้าวหน้า
พร้อมระบุว่า สิ่งที่อยากทำ หากมีโอกาส คือการยกระดับงานคมนาคมของไทยที่อยู่ตรงกลางอาเซียน สร้างระบบขนส่งที่เชื่อมต่อไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เราต้องเป็นหัวจ่ายที่สามารถกระจายสินค้าไปได้ทุกทิศ อดีตที่ผ่านมา แนวคิดเรื่อง “คอคอดกระ” ก็มีข้อถกเถียงเรื่องตัดแผ่นดิน มีข้อถกเถียงเรื่องความมั่นคง ทำให้ต้องหาทางศึกษาแนวทางใหม่ จึงได้ศึกษาโครงการวัน พอร์ต แลนด์ บริดจ์ และมองว่าควรจะเชื่อมจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นการเชื่อมฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย ระยะทาง 90 กิโลเมตร ช่วยประหยัดเวลาขนส่ง 4 วัน
“ที่ผ่านมา เราเคยทำอิสเทอร์น ซีบอร์ด ในพื้นที่ของจังหวัดระยอง และชลบุรี เพียง 2 จังหวัด แต่ก็ทำให้เศรษฐกิจโตในพื้นที่ และยังเป็นโครงการที่ประคองเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน โครงการวัน พอร์ต แลนด์บริดจ์ อยู่ในแนวคิดเดียวกัน ซึ่งเราจะสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทย และจะไม่ให้การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ไทยจะเป็นผู้เล่นหลักในภูมิภาค ถ้าทำสำเร็จ มั่นใจว่า ด้ามขวานไทย จะกลายเป็นด้ามขวานทอง”
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 65)
Tags: พรรคภูมิใจไทย, หาเสียง, อนุทิน ชาญวีรกูล