สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานผลการตรวจวัด PM2.5 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมาอยู่ในช่วง 28-57 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หรือมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 44 มคก./ลบ.ม.
โดยมีพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม.ซึ่งเป็นระดับเริ่มมีผลต่อสุขภาพจำนวน 11 พื้นที่ ได้แก่ ริมถนนทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา, ริมถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม, ริมถนนบางนาตราด เขตบางนา, ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน, ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ, ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน, ริมถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา, ป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ เขตธนบรี, ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน และริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 7 พื้นที่ ซึ่งตรวจวัดได้ระหว่าง 52-57 มคก./ลบ.ม.
ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งตรวจวัดได้ระหว่าง 38-50 มคก./ลบ.ม.จำนวน 48 พื้นที่เท่าเดิม และพื้นที่ที่อยู่ในระดับดี ซึ่งตรวจวัดได้ระหว่าง 28-37 มคก./ลบ.ม.จำนวน 11 พื้นที่
ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 ธ.ค.65 เป็นต้นไป เนื่องจากอัตราการระบายอากาศไม่ดี ลมอ่อนมีความเร็วแค่ 7 กม./ชม. สภาพเพดานการลอยตัวอากาศ PBL (Planetary Boundary Layer) ต่ำ ความกดอากาศสูงประกอบกับสภาวะอากาศที่นิ่ง ลมอ่อน มีแนวโน้มทำให้ฝุ่น PM2.5 ระบายตัวไม่ดี เกิดการสะสมปริมาณสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 65)
Tags: lifestyle, กทม., ฝุ่น PM 2.5, ฝุ่นละออง