สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (21 ธ.ค.) ว่า ญี่ปุ่นจะจับตาสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในจีนอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นราคา และข้อจำกัดด้านอุปทาน
รายงานเศรษฐกิจประจำเดือนธ.ค.ของคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยแพร่ออกมา ในขณะที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก กำลังเผชิญกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาทั่วโลก และต้นทุนนำเข้าที่ระดับสูงได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและกิจกรรมการผลิต
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดมุมมองด้านผลผลิตของโรงงานเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกสำหรับเซมิคอนดักเตอร์หยุดชะงัก แต่ยังคงประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง โดยระบุว่าเศรษฐกิจดีขึ้นในระดับปานกลาง
เจ้าหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายหนึ่งเปิดเผยว่า “หากสถานการณ์โควิดในจีนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานหรือการค้า ปัญหานี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ตามที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงต้นปีนี้”
ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มมุมมองด้านความเชื่อมั่นทางธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีเนื่องจากมีสัญญาณของการฟื้นตัว จากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลระบุว่า การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นทางธุรกิจได้หยุดชะงักลง
รายงานยังได้ระบุย้ำว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะบรรลุเป้าหมายราคาที่ระดับ 2% ได้อย่างมีเสถียรภาพโดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ, ราคา และสถานการณ์การเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 65)
Tags: COVID-19, ขึ้นราคา, จีน, ญี่ปุ่น, อุปทาน, อุปสงค์, เศรษฐกิจชะลอตัว, เศรษฐกิจโลก, โควิด-19