สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คอร์ ไซแอนติฟิค (Core Scientific) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ กำลังยื่นเรื่องต่อศาลรัฐเท็กซัสเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายตามมาตรา 11 ในช่วงเช้าวันพุธ (21 ธ.ค.) โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากราคาคริปโทเคอร์เรนซีทรุดตัวลงอย่างหนัก และราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นในปีนี้
คอร์ ไซแอนติฟิคทำธุรกิจขุดเหมืองคริปโทฯ ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวต้องใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพงและใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก
มูลค่าตลาดของคอร์ ไซแอนติฟิคทรุดตัวลงแตะระดับ 78 ล้านดอลลาร์หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันอังคาร (20 ธ.ค.) จากระดับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. 2564 ซึ่งเป็นเดือนที่คอร์ ไซแอนติฟิค นำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดผ่านทางบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการควบรวมกิจการ (Special Purpose Acquisition Company หรือ SPAC) ส่วนในปี 2564 ราคาหุ้นคอร์ ไซแอนติฟิค ดิ่งลงกว่า 98%
เซลเซียส เน็ตเวิร์ก (Celsius Network) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่และได้ยื่นล้มละลายไปเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นลูกค้าของคอร์ ไซแอนติฟิค โดยเมื่อเซลเซียสเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ย่อมส่งผลกระทบต่องบดุลบัญชีของคอร์ ไซแอนติฟิคด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งในผลกระทบที่เกิดจากการทรุดตัวลงอย่างหนักของตลาดคริปโทฯ ในปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 65)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, คอร์ ไซแอนติฟิค, บิตคอยน์