นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2566 ซึ่งเป็นผลสำรวจของหอการค้าโพล ที่ได้ผลสำรวจผู้ประกอบการรายสาขา, ผลสำรวจสถานภาพธุรกิจไทย และผลสำรวจปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีเกณฑ์การให้คะแนนจาก 5 ด้าน ด้านละ 20 คะแนน รวม 100 คะแนน คือ 1.ด้านยอดขาย 2.ด้านต้นทุน 3.กำไรสุทธิ 4.ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและการแข่งขัน 5.ความต้องการ/กระแสนิยม
โดยพบว่า ธุรกิจดาวรุ่ง 10 อันดับแรก ของปี 2566 เป็นดังนี้
อันดับ 1 ธุรกิจการแพทย์และความงาม
อันดับ 2 ธุรกิจ e-commerce (การซื้อ-ขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์)
อันดับ 3 Social Media, Online Entertainment, ธุรกิจด้านฟินเทค การชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี, ธุรกิจจัดอีเวนท์ จัด คอนเสิร์ต จัดงานแสดงสินค้า
อันดับ 4 influencer ธุรกิจโฆษณา และสื่อออนไลน์
อันดับ 5 ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ตัวกลาง-ตลาดกลางทางอิเล็กทรอนิกส์) และธุรกิจ Matching เช่น แพลตฟอร์มหาคู่, สั่งอาหาร, เรียกรถรับ-ส่ง
อันดับ 6 ธุรกิจประกัน และธุรกิจสถานบันเทิง
อันดับ 7 ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)
อันดับ 8 ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery และคลังสินค้า, ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น เครื่องดื่ม, อาหาร, เครื่องซักผ้า
อันดับ 9 ธุรกิจ e-Sport, ธุรกิจอาหารเสริม, อาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจยานยนต์
อันดับ 10 ธุรกิจความเชื่อ (หมอดู-ฮวงจุ้ย-สายมู), ธุรกิจบันเทิง เช่น ละครซีรีย์ Y และธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา-ใบกระท่อม
ส่วนธุรกิจดาวร่วง 10 อันดับแรก ของปี 2566 เป็นดังนี้
อันดับ 1 ธุรกิจฟอกย้อม, ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ วารสาร หนังสือพิมพ์
อันดับ 2 ธุรกิจส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้าน/สำนักงาน, ธุรกิจโรงพิมพ์
อันดับ 3 ธุรกิจคนกลาง
อันดับ 4 ร้านขายหนังสือ
อันดับ 5 ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก
อันดับ 6 ธุรกิจร้านถ่ายรูป, หัตถกรรม
อันดับ 7 ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าโหล
อันดับ 8 ธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี
อันดับ 9 โรงเรียนเอกชน
อันดับ 10 ร้านโชห่วย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ธุรกิจดาวรุ่งของปี 2566 นั้น จะเห็นได้ว่า ธุรกิจด้านการแพทย์และความงาม มาเป็นอันดับ 1 เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาด ได้ส่งผลให้ประชาชนหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีความต้องการใช้บริการด้านการแพทย์เพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจุบัน กระแสที่ต้องมีการโชว์หน้าตา และบุคลิกภาพออกสื่อโซเชียล ทั้งในเฟสบุ๊ก ยูทูป tiktok อินสตาแกรม จึงทำให้คนหันมาให้ความสำคัญกับรูปร่าง-หน้าตา-ผิวพรรณ ความสวยความงาม เพื่อออกสื่อโซเชียลมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในธุรกิจนี้อาจมีปัจจัยลบ หรือความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ประกอบกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรง การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งมาตรการควบคุมราคายา และเวชภัณฑ์ ยังคงเป็นข้อจำกัดให้ธุรกิจเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าธุรกิจดาวรุ่งในปีนี้ หลายอันดับเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะในธุรกิจดาวรุ่งอันดับที่ 2 – 4 ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยได้เปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกเข้าสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และกลุ่ม Gen Y และ Gen Z เข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางธุรกิจในปัจจุบันมากขึ้น เนื่องจากโครงสร้างประชากรในปัจจุบันกลุ่ม Gen Y และ Gen Z มีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 55% รองลงมาเป็น Gen X 35% และที่เหลืออีก 10% เป็น Baby Boomer
“จะเห็นได้ว่าธุรกิจใหม่ๆ เกี่ยวกับดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาเป็น trend มากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ปี 65 trend ได้วิ่งเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางธุรกิจ และทำให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค” นายธนวรรธน์ กล่าว
ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร บริษัททัวร์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ ในปีหน้า ก็จะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ภายหลังจากที่ไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงกลางปี 65 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจบริการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน
นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากที่เริ่มมีธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยติด 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง ได้เข้ามาติดอันดับในปี 66 เป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับ 10 คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา (สายมูเตลู) เช่น หมอดูดวง ดูฮวงจุ้ย รวมถึงธุรกิจบันเทิง เช่น ละครซีรีย์ Y และธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ใบกระท่อม
ทั้งนี้ มองว่าในธุรกิจที่เกี่ยวกับสายมูเตลูนั้น เป็นเพราะความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคม จึงทำให้ประชาชนมีความกังวลในการใช้ชีวิต จึงอยากมีที่พึ่งทางใจ ซึ่งทำให้เกิดธุรกิจที่ให้บริการบนความเชื่อความศรัทธาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ซินแส หมอดู เบอร์มือถือมงคล เป็นต้น รวมทั้งมี Influencer ที่ทำ content เกี่ยวกับสายมูเตลูเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชา และใบกระท่อม ที่เพิ่งเข้ามาติดใน 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่งเป็นครั้งแรก ก็น่าเป็นเพราะกระแสการเปิดเสรีกัญชาในประเทศไทย ที่รัฐบาลปลดล็อกกัญชง-กัญชา ให้พ้นจากสถานะการเป็นยาเสพติด (กรณีค่า THC ไม่เกิน 0.2%) นอกจากนี้ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้าถึงกัญชา และใบกระท่อม สามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยพบเห็นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับพืชดังกล่าวทั้งจากร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 65)
Tags: Infographic, ธนวรรธน์ พลวิชัย, ธุรกิจ, ผลสำรวจ, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, วชิร คูณทวีเทพ, หอการค้าโพล